จีนเตือนมหาอำนาจอย่าก่อสงครามเย็นครั้งใหม่
นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียงของจีน กล่าวว่าประเทศมหาอำนาจในโลกต้องพยายามให้ความคิดเห็นหรือแนวทางที่แตกต่างกัน อยู่ภายใต้การควบคุม และหลีกเลี่ยง”สงครามเย็นครั้งใหม่” ซึ่งน่าจะพาดพิงถึงสหรัฐ ระหว่างการประชุมอาเซียนที่อินโดนีเซีย
ที่ผ่านมา จีนได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับการก่อตั้งกลุ่มที่สหรัฐหนุนหลังบริเวณหลังบ้านจีน ทั้งยังมีข้อพิพาทกับมหาอำนาจอื่นๆ ในภูมิภาค กรณีทะเลจีนใต้และประเด็นอื่นๆ โดยหลี่ เฉียงระบุว่าความเห็นที่ไม่ลงรอยกันและข้อพิพาทอาจเกิดขึ้นได้ระหว่างประเทศต่างๆ หากเกิดความเข้าใจผิดกัน มีผลประโยชน์ที่แตกต่างกัน หรือมีการแทรกแซงจากภายนอก
รองนายกฯจีนระบุว่าสิ่งจำเป็นขณะนี้คือต่อต้านการเลือกข้าง คัดค้านการเผชิญหน้าระหว่างกลุ่ม และคัดค้านสงครามเย็นครั้งใหม่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ความเห็นต่างทั้งหลายอยู่ภายใต้การควบคุม
คาดปีนี้ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
หน่วยงานติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหภาพยุโรป ระบุว่าปี 2566 มีแนวโน้มจะเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ และอุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนของทางซีกโลกเหนือปีนี้ก็ร้อนเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากวิกฤติภูมิอากาศและปรากฎการณ์เอลนีโญ ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น และก่อให้เกิดสภาพอากาศสุดขั้วทั่วโลก
คลื่นความร้อน ภัยแล้ง และไฟป่า ได้สร้างความเสียหายต่อเอเชีย แอฟริกา ยุโรป และอเมริกาเหนือในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา โดยส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ระบบนิเวศ และสุขภาพของมนุษย์ ทั้งยังทำให้ช่วงสามเดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดในรอบประมาณ 120,000 ปี หรือร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุว่าหายนะด้านสภาพภูมิอากาศได้เริ่มขึ้นแล้ว
อินเดียชี้ “สี จิ้นผิง-ปูติน”งดประชุมG20 ไม่แปลก
สุพรหมณยัม ชัยศังกร รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย กล่าวว่าการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแห่งจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดจี 20 ที่กรุงนิวเดลี ในสัปดาห์นี้ นับว่าไม่ใช่เรื่องแปลก และเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับอินเดีย
อย่างไรตาม ชัยศังกรกล่าวว่า ความคาดหวังจากกลุ่มจี 20 นั้นสูงมาก และอินเดียก็เผชิญกับความท้าทายในการจัดการกับสถานการณ์ที่เลวร้ายของโลก โดยโลกกำลังสั่นคลอนจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19, ความขัดแย้ง, การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ, ปัญหาหนี้ และความตึงเครียดด้านการเมือง