รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รัฐประหารโดยกองทัพของเมียนมาต่อเอกอัครราชทูตของบรรดาประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน
นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้กล่าวแสดงความกังวลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่มีเกี่ยวกับการทำรัฐประหาร โดยในใจความของการแถลงการณ์ระบุว่าประธานาธิบดีแสดงความขอบคุณชาติอาเซียนที่ให้ความสนใจต่อสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้น และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของความช่วยเหลือจากประเทศในภูมิภาคที่จะทำให้เกิดการฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยของเมียนมาได้ในทันที
ประชาคมอาเซียน ซึ่งมีประเทศเมียนมาเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิก ได้ระบุว่ามีการจับตามองความคืบหน้าของสถานการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมากองกำลังทหารของเมียนมาได้ก่อการปฏิวัติรัฐประหารเพื่อโค่นล้มรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ โดยกลุ่มผู้ก่อรัฐประหารกล่าวอ้างว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา
อ่าน : “เมียนมา” ฉีด วัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศอีกครั้ง ในกลุ่มรัฐมนตรี ผู้สูงอายุ
กองทัพของเมียนมาได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศเป็นเวลาหนึ่งปีหลังจากที่ควบคุมตัวผู้นำของเมียนมาได้สำเร็จ และออกมากล่าวว่าจะดำเนินการจัดการเลือกตั้งทันทีที่จัดการกับข้อกล่าวหาต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย
นอกเหนือจากการส่งแถลงการณ์ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวจากรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว ยังได้มีการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการขยายขอบเขตของข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และประชาคมอาเซียน โดยนายซัลลิแวน และทูตของประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนได้หารือร่วมกันถึงโอกาสในการยกระดับความร่วมมือในการจัดการกับภาวะโลกร้อน การรับมือกับวิกฤตโควิด-19 การส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจ การพัฒนาด้านความมั่นคงทางทะเล การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมนุษย์ รวมถึงความสำคัญของการมีศูนย์กลางของชาติอาเซียน
ในส่วนของการหารือระหว่างประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนด้วยกัน ประเทศบรูไน ในฐานะประธานชาติอาเซียนได้ออกมากล่าวว่า กลุ่มประเทศอาเซียนสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายหันมาพูดจาไกล่เกลี่ยเพื่อประนีประนอมกันและเดินหน้าสู่ภาวะปกติ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวเมียนมา โดยเน้นย้ำด้วยว่าความมั่นคงทางการเมืองในกลุ่มประเทศสมาชิกถือเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งยวดต่อการนำไปสู่ความสงบสุขและความมั่งคั่งของประชาคมอาเซียน