บุนเดสแบงก์พลิกโฉมหน้านโยบายการเงินใหม่ด้วยการเข้าซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้นหลังจากกังวลในความเสี่ยงที่มากขึ้นต่อปัญหาสถานภาพของดอยช์แบงก์และธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมถึงทิศทางความไม่แน่นอนของค่าเงินยูโรและเงินดอลลาร์
ท่ามกลางราคาทองที่พุ่งขึ้นแตะระดับ 1,565 ดอลลาร์สำหรับการซื้อขายผ่านระบบดิจิตัลที่เรียกว่า CDG (Comex Digital Gold) ในตลาดค้าทองล่วงหน้าของนิวยอร์กเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เสร็จสิ้นการประชุม 2 วันโดยมีมติ 8 ต่อ 2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เป็นช่วงระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75%
นับเป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปีที่เยอรมนีได้เปิดเผยฐานะในการเข้าซื้อทองคำเพื่อถือครองไว้เป็นทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศมากขึ้นจากความวิตกต่อวิกฤติการเงินที่กำลังก่อตัวเนื่องจากนโยบายการเงินของ ECB ที่เกินกำลังของตัวเอง
หลังจากที่ ECB ประกาศทุ่มสุดตัวในการเข้าซื้อบอนด์และตราสารการเงินของกลุ่มประเทศในเขตยูโรโซนเดือนละ 20,000 ล้านยูโรโดยไม่จำกัดระยะเวลาการอัดฉีดเม็ดเงิน QE ระลอกใหม่หรือจนกว่าเศรษฐกิจหรือจีดีพีของยุโรปจะกลับฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งถือเป็นเป้าหมาของนโยบายการเงินในขณะนี้
นอกจากนี้ในการเป็นประธานประชุมของ ECB ครั้งสุดท้ายของมาริโอดรากีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายดอกเบี้ยติดลบ (Negative Interest Rate)
โดยเมื่อวันพฤหัสฯที่แล้วECB มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่เป็นอัตรารีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% โดยเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์และคงดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 0.25% หรืออาจปรับลดลงในอนาคตโดยขึ้นอยู่กับสัญญาณบ่งชี้การปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ
ขณะที่ดอยช์แบงก์ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนีประสบการขาดทุนจำนวนมหาศาลจากการบริหารสินทรัพย์ทางการเงินที่มีความเสี่ยงจะขาดทุนมากขึ้นและอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม 2013 รัฐบาลเยอรมนีได้สั่งการให้บุนเดสแบงก์ซึ่งเป็นธนาคารกลางดำเนินการถอนทองคำจำนวน 674 ตันจากที่ฝากไไว้กับเฟดสาขานิวยอร์กและธนาคารกลางฝรั่งเศส
ทั้งนี้บุนเดสแบงก์จะยังคงดำเนินการเพิ่มสำรองทองคำอย่างระมัดระวังค่อยเป็นค่อยไปพร้อมๆกับการติดตามปัญหาสกุลเงินหลักของโลกอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะในช่วงที่เฟดได้ทบทวนใช้นโยบาย QE รอบใหม่จากที่ได้เพิ่ม QE ใหม่จำนวน 200,000 ล้านดอลลาร์เป็น 4 ล้านล้านดอลาร์ในเดือนกันยายน
และยังเตรียมการอัดฉีดสภาพคล่องกว่า 120,000 ล้านดอลลาร์เพื่อการันตีการเข้าซื้อบอนด์รัฐบาลสหรัฐในวงเงิน 60,000 ล้ารดอลลาร์ต่อเดือนจนถึงเดือนมิถุนายน 2020 คาดใช้เงินรวมถึง 540,000 ล้านดอลลาร์ที่ส่งผลให้ภาระงบดุลของเฟดเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต
ขณะเดียวกันบุนเดสแบงก์จับตามองทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลงจากนโยบายการเงินของเฟดครั้งล่าสุดโดยเฉพาะดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่ปรับลดลงมาแตะที่ระดับ 97.31 ในวันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน