อินโดฯ เล็งออกวีซ่าทองคำ ดึงนักลงทุนต่างชาติ
อินโดนีเซียเตรียมออก ”วีซ่าทองคำ” เพื่อเปิดทางให้ชาวต่างชาติที่มีศักยภาพในการลงทุนสามารถพำนักอยู่ในอินโดนีเซียได้ตั้งแต่ 5-10 ปี นับเป็นหนึ่งในความพยายามส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมืองแถลงว่า ชาวต่างชาติที่มีเงินลงทุนมูลค่า 350,000 ดอลลาร์ในหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นอินโดนีเซีย, มีเงินฝากหรือบัญชีออมทรัพย์หรือถือพันธบัตรรัฐบาลอินโดนีเซีย จะมีสิทธิ์พำนักอยู่ในอินโดนีเซียได้ 5 ปี ส่วนผู้ที่มีเงินลงทุนมูลค่า 700,000 ดอลลาร์สามารถพำนักได้เป็นเวลา 10 ปี
นอกจากนี้ วีซ่าระยะเวลา 5 ปียังอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถจัดตั้งบริษัทในอินโดนีเซียได้โดยมีเม็ดเงินลงทุนอย่างน้อย 2.5 ล้านดอลลาร์ ส่วนวีซ่าระยะเวลา 10 ปีอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติสามารถจัดตั้งบริษัทได้โดยมีเม็ดเงินลงทุนอย่างน้อย 5 ล้านดอลลาร์
ส่วนผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการหรือคณะกรรมการของบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในอินโดนีเซีย จะมีสิทธิ์ได้รับวีซ่า 5 ปีหากบริษัทมีการลงทุน 25 ล้านดอลลาร์ และมีสิทธิ์ได้รับวีซ่า 10 ปีหากบริษัทมีการลงทุน 50 ล้านดอลลาร์
คาดว่าผู้ถือวีซ่าทองคำจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการไม่จำเป็นต้องยื่นขอใบอนุญาตพำนักชั่วคราวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
ประเทศอื่นที่ออกวีซ่าในทำนองเดียวกับวีซ่าทองคำเพื่อดึงดูดนักลงทุน รวมถึงสหรัฐ ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ และสเปน
อดีตเจ้าของห้างแฮร์รอด เสียชีวิตในวัย 94
ครอบครัวเปิดเผยว่าโมฮัมเหม็ด อัลฟาเอด อดีตเจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง แฮร์รอด ในกรุงลอนดอน ซึ่งบุตรชายเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์กับเจ้าหญิงไดอานา ได้เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 94 ปี
อัลฟาเอด เป็นนักธุรกิจเชื้อสายอียิปต์ และเคยเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลฟูแลม แถลงการณ์ของครอบครัวระบุว่าอัล ฟาเอดจากไปอย่างสงบ ตลอดระยะเวลาของชีวิตหลังเกษียณ เขาห้อมล้อมไปด้วยบุคคลอันเป็นที่รัก
อัลฟาเอดเกิดที่เมืองอเลกซานเดรีย ประเทศอียิปต์ เป็นบุตรของสารวัตรโรงเรียน เขาเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยความสนใจด้านชิปปิง จากนั้นก็ย้ายไปอยู่อังกฤษเมื่อช่วงทศวรรษ 1960 จนกระทั่งเขากับน้องชายซื้อหุ้น 30% ในเฮาส์ออฟเฟรเซอร์กรุ๊ปและเข้าเป็นเจ้าของห้างแฮร์รอดในปีต่อมา ด้วยการทำข้อตกลงมูลค่า 615 ล้านปอนด์
เจ้าหนี้ไฟเขียว “คันทรี การ์เดน” ยืดเวลาชำระหนี้หุ้นกู้
คันทรี การ์เดน บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหาของจีน ได้รับการอนุมัติจากเจ้าหนี้ ให้ยืดเวลาการชำระหนี้หุ้นกู้ในประเทศวงเงิน 3,900 ล้านหยวน ความคืบหน้าดังกล่าวเป็นการซื้อเวลาสำหรับคันทรี การ์เดน เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
คันทรี การ์เดน ได้หารือกับเจ้าหนี้ในประเทศเพื่อยืดเวลาชำระหนี้หุ้นกู้ โดยเสนอผ่อนจ่ายหนี้เป็นระยะเวลา 3 ปี แทนการจ่ายหนี้ที่ครบกำหนดชำระในวันที่ 2 ก.ย. อย่างไรก็ตาม คันทรี การ์เดนยังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากจะต้องจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ต่างประเทศสกุลดอลลาร์ 2 ชุดที่เลยกำหนดชำระแล้ว วงเงินรวม 22.5 ล้านดอลลาร์
คันทรี การ์เดน ซึ่งมีสตรีที่มั่งคั่งที่สุดคนหนึ่งของจีน คือหยาง ฮุยหยานเป็นประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นข้างมาก นับว่ามีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจจีน ความที่บริษัทมีขนาดใหญ่มาก และมีโครงการที่อยู่อาศัยมากกว่า 3,000 โครงการตามเมืองเล็กๆ รวมถึงมีพนักงาน 70,000 คน
จีนอนุมัติตั้งสำนักงานพิเศษ หนุนเศรษฐกิจภาคเอกชน
คณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติเปิดเผยว่า รัฐบาลกลางอนุมัติให้มีการจัดตั้งสำนักงานพิเศษภายใต้สังกัดของคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการเติบโตของเศรษฐกิจภาคเอกชน
สำนักงานพิเศษดังกล่าวจะรับผิดชอบกำหนดนโยบายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาบริษัทเอกชน ทั้งในด้านศักยภาพการแข่งขันภายในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงจัดหามาตรการแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ ภาคเอกชนคิดเป็นสัดส่วน 80% ของการจ้างงานในเขตเมือง แต่ประสบความยากลำบากในการดึงดูดการลงทุน เนื่องจากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวเปราะบางในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยบรรดาเจ้าของธุรกิจเผชิญแรงกดดันจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ
อินเดียยกระดับความปลอดภัย เตรียมเป็นเจ้าภาพประชุม G20
อินเดียเตรียมใช้ระบบต่อต้านโดรนเพื่อป้องกันการโจมตีทางอากาศ และจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวน 130,000 นาย ระหว่างที่อินเดียเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด G20 ณ กรุงนิวเดลี ซึ่งถือเป็นงานที่สำคัญมากสำหรับนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี รวมถึงอิทธิพลของอินเดียที่เพิ่มขึ้นในเวทีโลก
การประชุมสุดยอด G20 จะใช้ระยะเวลา 2 วัน เริ่มต้นในวันเสาร์ที่ 9 ก.ย. โดยจะมีนักการเมืองระดับสูงและบุคคลสำคัญจำนวนมากที่สุดเท่าที่อินเดียเคยต้อนรับมา ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐ, นายกรัฐมนตรีริชี ซูนัคแห่งอังกฤษ ไปจนถึงเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย แต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแห่งจีน อาจไม่เข้าร่วมการประชุม
นอกจากนี้ ผู้นำจากญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และเยอรมนีก็คาดว่าจะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย เช่นเดียวกับเหล่าผู้นำจากองค์การสหประชาชาติ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารโลก องค์การการค้าโลก และองค์การอนามัยโลก
ในระหว่างการประชุม อินเดียจะเพิ่มการปกป้องรอบกรุงนิวเดลี และควบคุมการเข้าออกเมืองอย่างเข้มงวด รวมถึงมีแผนปิดเมืองบางส่วนในระหว่างการประชุม โดยให้โรงเรียน หน่วยงานของรัฐ และธุรกิจต่างๆ ปิดทำการชั่วคราว 3 วัน
