Arcadia ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกอังกฤษ ยื่นขอฟื้นฟูกิจการ นับเป็นธุรกิจรายใหญ่สุดของอังกฤษที่เข้ากระบวนการล้มละลาย จากพิษโควิด-19
Deloitte ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารจัดการบริษัท จะพยายามหาคนมาซื้อบรรดาแบรนด์แฟชั่นของ Arcadia ไม่ว่าจะเป็น Topshop, Topman, Dorothy Perkins, Wallis, Miss Selfridge, Evans, Burton และ Outfit
ร้านค้าของ Arcadia ซึ่งมี 444 แห่งในอังกฤษ และ 22 แห่งในต่างประเทศ จะยังเปิดให้บริการต่อไป รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ และในจุดนี้ยังไม่มีการประกาศลดพนักงาน
ฟิลิป กรีน เศรษฐีอังกฤษซึ่งไปใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาในโมนาโค เข้าซื้อกิจการ Arcadia เมื่อปี 2545 ด้วยเงิน 850 ล้านปอนด์ กรีนยังไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ซีอีโอบริษัทระบุว่าต้นเหตุมาจากโควิด-19 ที่ทำให้บรรยากาศการค้าเป็นไปอย่างยากลำบาก
ด้านรัฐมนตรีธุรกิจของอังกฤษ ระบุว่าการยื่นฟื้นฟูกิจการถือเป็นข่าวเศร้า และรัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ การล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายสำหรับ Arcadia ซึ่งประสบปัญหามาพักหนึ่งแล้ว และตามหลังบรรดาคู่แข่งออนไลน์ในภาคค้าปลีก
แบรนด์ในเครือ Arcadia เจอคู่แข่งอย่าง Zara, H&M, Primark รวมถึง ASOS กับ Boohoo ที่ขายทางออนไลน์อย่างเดียว
นักวิเคราะห์มองว่า Topshop ซึ่งเคยเป็นร้านโปรดของวัยรุ่นและผู้ชื่นชอบแฟชั่น เป็นสินทรัพย์ของ Arcadia ที่น่าสนใจที่สุด
เมื่อปีที่แล้ว บรรดาเจ้าหนี้ของบริษัทได้อนุมัติข้อตกลงปรับโครงสร้าง รวมถึงในส่วนของการลดค่าเช่า และปิดร้านบางส่วน แต่สามารถช่วยได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น
การที่ Arcadia ต้องฟื้นฟูกิจการ ส่งผลกระทบไปถึงห้างสรรพสินค้า Debenhams เพราะ Arcadia เป็นหนึ่งในผู้เช่ารายใหญ่ โดยล่าสุดมีข่าวว่าห้าง Debenhams จะเริ่มกระบวนการชำระบัญชี อันจะนำไปสู่การปิดห้างและอาจกระทบถึงตำแหน่งงานต่างๆ ที่มีอยู่ 12,000 ตำแหน่ง
การตัดสินใจนี้มีขึ้นหลังจากไม่สามารถหาผู้ซื้อได้ โดย JD Sports Fashion ยืนยันว่าจะไม่ยื่นซื้อกิจการ Debenhams
ในระหว่างนี้ Debenhams จะยังเปิดให้บริการต่อไป รวมถึงทางออนไลน์ เพื่อเคลียร์ธุรกรรมและสต็อกที่ค้างอยู่ ท้ายที่สุดแล้วหากยังไม่มีทางเลือกอื่น บทสรุปของกระบวนการนี้คือยุติการดำเนินงานในอังกฤษ