ภาพรวมของตลาดอุปกรณ์สำนักงานในปีที่ผ่านมาถือว่าเติบโตได้ไม่มากนัก เนื่องด้วยหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดชีวิตวิถีใหม่ ออฟฟิศเมท หนึ่งในบริษัทที่ผุดกลยุทธต่าง ๆ ออกมาเพื่อดำเนินการธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้ โดยมีแผนทำธุรกิจแบบคู่ค้า เพื่อดันยอดให้พุ่งขึ้นเป็น 2 ดิจิในปีนี้
วิลาวรรณ ฤกษ์เกรียงไกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ออฟฟิศเมท พลัส แฟรนไชส์ จำกัด เปิดเผยว่า ในภาพรวมของตลาดอุปกรณ์สำนักงานทั้งหมด พบว่ามันเติบโตได้ไม่มากนัก มีเพียงไม่กี่รายที่สามารถเติบโตมากได้ ซึ่งคนที่เติบโตมาก คือคนที่มีความพร้อมในเรื่องของการให้บริการสินค้าในทุกรูปแบบ ออฟฟิศเมท มีการทำการตลาดในรูปแบบ Omnichannel โดยมีส่วนแบ่งการตลาดโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 25-30% และในบางหมวดหมู่สามารถขึ้นไปได้ถึง 40% ซึ่งนั่นทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้โดยที่ไม่ได้รับผลกระทบมาก เนื่องจากการเพิ่มส่วนบริการต่าง ๆ เข้าไป ให้กับลูกค้าโดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงโควิดเป็นต้นมา
“ปีที่ผ่านมา เราอาจจะประสบปัญหาที่การใช้สินค้ากลุ่มอุปกรณ์สำนักงานลดลงไปในอัตราที่ต้องเรียกว่าก็พอสมควร ปีนี้เราคาดหวังว่าเมื่อเหตุการณ์โควิดกลับมา เราก็สามารถที่จะเริ่มดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ สามารถที่จะกลับมาเติบโตได้ และคาดว่าการเติบโตในปีนี้ก็คงเป็นการเติบโตที่สองดิจิ” วิลาวรรณ กล่าว
วิลาวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเติบโตที่เกิดขึ้น เป็นการเติบโตที่เกิดจากการพัฒนาช่องทางการขายที่เริ่มต้นทำไปเมื่อก่อนหน้านี้ และยังดำเนินสืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน คือการมีช่องทางการขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนที่หนึ่งเรียกว่าตลาด โดยออฟฟิศเมทมีการเปิดรับให้ผู้ผลิตสินค้าหรือเจ้าของสินค้า สามารถนำสินค้าเข้ามาร่วมขายในออฟฟิศเมทได้โดยไม่จำกัด
อีกส่วนหนึ่ง คือการขยายคู่ค้าทางธุรกิจในส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ออฟฟิศเมทออกมาประกาศที่จะรับสมัครคู่ค้าที่เป็นแฟรนไชส์ ซึ่งออฟฟิศเมทมีความต้องการที่จะเปิดร้านแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก โดยมีแผนที่จะเปิดแฟรนไชส์ทั้งสิ้นประมาณ 200 สาขา จากประมาณ 80 สาขาเดิมของเราที่มีอยู่