ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก 99.13 จุด หรือ 0.29% อยู่ที่ 34,364.50 จุด จากแรงซื้อเก็งกำไรช่วงท้ายตลาด หลังระหว่างวันดัชนีปรับลงแรง 1,000 จุด ขณะที่ยุโรปปิดลบจากความตึงเครียดยูเครน-รัสเซีย พร้อมจับตาประชุมเฟด 25-26 ม.ค.65 ส่วนเอเชียแนวโน้มปรับลง
ตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 25 ม.ค.65 มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ดังนี้
– ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) ปรับขึ้น 99.13 จุด หรือปรับขึ้น 0.29% มาอยู่ที่ 34,364.50 จุด
– ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) ปรับขึ้น 12.19 จุด หรือปรับขึ้น 0.28% มาอยู่ที่ 4,410.13 จุด
– ตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีแนสแดค (NASDAQ) ปรับขึ้น 86.21 จุด หรือปรับขึ้น 0.63% มาอยู่ที่ 13,855.13 จุด
– ตลาดหุ้นอังกฤษ ดัชนีฟุตซี่ 100 (FTSE 100) ปรับลง 196.98 จุด หรือปรับลง 2.63% มาอยู่ที่ 7,297.15 จุด
– ตลาดหุ้นเยอรมัน ดัชนีแด๊ก (DAX) ปรับลง 592.75 จุด หรือปรับลง 3.80% มาอยู่ที่ 15,011.13 จุด
– ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ดัชนีซีเอซี 40 (CAC40) ปรับลง 280.80 จุด หรือปรับลง 3.97% มาอยู่ที่ 6,787.79 จุด
– ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ดัชนีเจซีไอ (JCI) ปรับลง 71.20 จุด หรือปรับลง 1.06% มาอยู่ที่ 6,655.16 จุด
– ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ดัชนีพีเอสอี คอมโพสิต (PCOMP) ปรับลง 2.49 จุด หรือปรับลง 0.03% มาอยู่ที่ 7,250.15 จุด
– ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ดัชนีนิเคอิ (NIKKEI) ปรับลง 537.06 จุด หรือปรับลง 1.95% มาอยู่ที่ 27,051.31 จุด
– ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้ (CSI300) ปรับลง 31.89 จุด หรือปรับลง 0.67% มาอยู่ที่ 4,754.85 จุด
– ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็ง (HANG SENG) ปรับลง 475.88 จุด หรือปรับลง 1.93% มาอยู่ที่ 24,180.58 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 99.13 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 34,364.50 จุด จากแรงเข้าซื้อเก็งกำไรในช่วงท้ายตลาด หลังระหว่างวันปรับลงแรง 1,000 จุด จากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด และสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างยูเครนและรัสเซีย รวมถึงติดตามการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 25-26 ม.ค.นี้
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียปรับลง จากความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐและรัสเซียเกี่ยวกับประเด็นยูเครนเช่นกัน รวมถึงระมัดระวังในการซื้อขายก่อนการประชุมเฟด ขณะที่ติดตามเกาหลีใต้รายงานจีดีพีไตรมาส 4/64 และออสเตรเลียรายงานอัตราเงินเฟ้อไตรมาส 4/64 ในเช้านี้