หลังหุ้นมหาชนอย่าง OR หรือ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) บริษัทลูกในเครือ ปตท. เปิดให้รายย่อยจองซื้อ IPO พร้อมกันเมื่อ 9.00 น. ที่ผ่านมา พบว่า นักลงทุนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ส่งผลให้ช่องทางการจองซื้อผ่านเว็บไซต์และโมบายแบงก์กิ้งของ 3 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย ระบบล่มไม่สามารถรองรับธุรกรรมได้ตามปกติ
อย่างไรก็ดี การของซื้อ หุ้นโออาร์ ใช้วิธีการจัดสรรสัดหุ้นแบบ “Small Lot First” หรือ ให้สิทธิแก่นักลงทุนรายย่อยที่จองซื้อขั้นต่ำก่อน ทั้งนี้ เพื่อให้หุ้น OR สามารถกระจายไปยังนักลงทุนรายย่อยได้อย่างทั่วถึงจริงๆ
อ่าน : OR เป็นเหตุสังเกตได้ ! 3 แบงก์เปิดจองซื้อหุ้นนาทีแรกระบบล่ม
ทั้งนี้กระบวนการ Small Lot First จะเริ่มขึ้นหลังวันที่ 2 ก.พ.64 เวลา 12.00 น. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่เปิดให้จองซื้อหุ้น IPO โดยรอบแรกจะกระจายหุ้นให้แก่นักลงทุนรายย่อยที่จองซื้อน้อยที่สุดที่ขั้นต่ำ 300 หุ้น ราคาที่กำหนดไว้ 18.00 บาท หรือใช้เงินจองซื้อรวมทั้งสิ้น 5,400 บาท
หลังจากนั้นจึงจะจัดสรรให้นักลงทุนที่แสดงความสนใจจองซื้อเข้ามามากกว่า 300 หุ้น โดยจะแบ่งรอบละ 100 หุ้นวนไปเรื่อยๆ จนกว่าหุ้น IPO ที่จัดสรรให้นักลงทุนรายย่อยรวมทั้งสิ้น 596 ล้านหุ้น ดังนั้น การจองซื้อเร็วหรือช้าสำหรับนักลงทุนรายย่อยก็ไม่มีผลต่อการจัดสรรหุ้นด้วยวิธีดังกล่าว
อย่างไรก็ดีสำหรับนักลงทุนที่กดจองซื้อมากกว่า 300 หุ้น อาจได้รับสิทธิการจัดสรรไม่ครบ หากมีนักลงทุนรายย่อยแสดงความต้องการซื้อเข้ามาอย่างล้นหลาม เช่น สมมติว่าจองซื้อ 10,000 หุ้น อาจได้เพียง 5,000 หุ้น เป็นต้น
อ่าน : ใครอยากเป็นเจ้าของ ‘OR’ เช็คขั้นตอนก่อนจองซื้อหุ้นผ่านออนไลน์ ได้ที่นี่!
ด้าน “พงศ์ศักดิ์ พฤกษ์ไพศาล” กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า หากจัดสรรหุ้นด้วยวิธี Small Lot First เป็นวิธีที่ตอบโจทย์นักลงทุนรายย่อยมากที่สุด หากคิดเล่นๆ ว่ามีนักลงทุนกดจองซื้อขั้นต่ำทั้งหมดที่ 300 หุ้น จะต้องใช้นักลงทุนมากถึง 1.8 ล้านคนในการจองซื้อหุ้น ซึ่งเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลย
ทั้งนี้ประวัติศาสตร์การจองซื้อหุ้น IPO ของไทยที่ผ่านมา พบว่า บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ที่มีนักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้น IPO สูงสุดก็มีจำนวนนักลงทุนที่จองเข้ามาประมาณ 80,000 คนเท่านั้น รองลงมาคือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ที่มีนักลงทุนรายย่อยจองซื้อประมาณ 40,000 คน
“เรายืนยันว่าจองก่อนหรือจองที่หลังก็ไม่มีผลต่อสิทธิที่จะได้รับการจัดสรรหุ้น เพราะจะเริ่มจัดสรรพร้อมกันทุกๆ คน และในกรณีสุดโต่ง (extreme) อย่างที่เราคุยกันไปว่าต้องมีรายย่อยจองซื้อขั้นต่ำเข้ามาพร้อมกัน 1.8 ล้านคนนั้น หากเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ต้องสุ่มจัดสรรหุ้นอยู่ดี ไม่ได้เรียงตามเวลาที่จองซื้อเข้ามา”