นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวถึงแนวโน้มหุ้นไทยวันนี้ (22 ก.พ.) คาดว่าตลามีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ต่อ ตอบรับ Sentiment บวกการเลือกตั้งที่ค่อนข้างชัดเจน แต่การปรับขึ้นอาจยังไปไหนได้ไม่ไกล เนื่องจากเมื่อวานขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว พร้อมแนะติดตามยอดขายบ้านมือสองเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งตลาดคาดไว้ที่ 4 ล้านหลัง โดยให้แนวต้านไว้ที่ 1,675 จุด และแนวรับ 1,655 จุด
ขณะที่ SET ปิดเมื่อวาน (21 ก.พ.) ที่ 1,668.63 จุด เพิ่มขึ้น 10.94 จุด (+0.66%) มูลค่าการซื้อขาย 66,040.26 ล้านบาท การซื้อขายดัชนีฟื้นตัวขึ้นได้ดีในช่วงบ่าย สูงสุด 1,669.51 จุด และต่ำสุด 1,652.25 จุด โดยปรับตัวดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย อย่างฮ่องกงและอินโดนีเซีย ตอบรับข่าวนายกรัฐมนตรีระบุว่าการยุบสภาจะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนมี.ค.นี้ เพื่อให้เป็นไปตามกำหนดวันเลือกตั้งตามมติคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ได้ประกาศไว้ภายในวันที่ 7 พ.ค.66 ทำให้มีการเข้ามาเก็งกำไรหุ้นที่จะได้รับผลบวกจากการเลือกตั้ง ซึ่งโดยสถิติตลาดหุ้นมักพุ่งในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง นอกจากนั้น ตลาดฯ ยังได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจฝรั่งเศสออกมาดีกว่านักวิเคราะห์คาด โดยเฉพาะดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นของฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 52.8 ในเดือนก.พ. จาก 49.4 ในเดือนม.ค.
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 855 หลักทรัพย์ ลดลง 682 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 523 หลักทรัพย์
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 6,383.65 ล้านบาท ปิดที่ 139.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 4,322.65 ล้านบาท ปิดที่ 81.25 บาท ลดลง 1.75 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,889.27 ล้านบาท ปิดที่ 100.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,638.70 ล้านบาท ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
CHASE มูลค่าการซื้อขาย 1,818.61 ล้านบาท ปิดที่ 3.00 บาท เพิ่มขึ้น 010. บาท