นักวิเคราะห์มองแนวโน้มหุ้นไทยวันนี้ ตลาดยังมีความผันผวน แต่เป็นภาพระยะสั้น ผลการประชุมเฟดน่าจะทำให้ความกังวลทิศทางนโยบายการเงินคลี่คลาย ขณะที่ดัชนีเมื่อวานปัจจัยบวกยุบสภาช่วยเบรกดัชนีไม่ให้ไหลลงมากเกินไป
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวถึงแนวโน้มหุ้นไทยวันนี้ (21 มี.ค.) คาดว่าตลาดยังมีความผันผวนอยู่ แต่มองว่าจะเป็นภาพระยะสั้นกรณีที่ตราสารหนี้กลับมามีความเสี่ยงมากกว่าหุ้น แต่เชื่อว่าสุดท้ายเมื่อมีความชัดเจนมากขึ้น และผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 มี.ค.น่าจะทำให้ความกังวลทิศทางนโยบายการเงินคลี่คลาย และคาดว่าเฟดจะพูดถึงความแข็งแกร่งของระบบธนาคาร ความเสี่ยงต่างๆ และปัญหาของธนาคารน่าจะสกัดได้ ดังนั้น แนะนำให้ลงทุนช่วงก่อนประชุมเฟดเพราะมองโอกาสตลาดจะรับข้อมูลทางบวกและจะทำให้ตลาดดีขึ้น ให้แนวรับ 1,540 จุด แนวต้าน 1,565-1,570 จุด
ขณะที่ SET ปิดเมื่อวาน (20 มี.ค.) ที่ 1,555.45 จุด ลดลง 8.22 จุด (-0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 62,843.04 ล้านบาท ปรับตัวลงตามตลาดเอเชีย และตลาดหุ้นยุโรปเปิดมาปรับตัวลง กังวลฐานะการเงินแบงก์ทั่วโลกกดดันราคาหุ้นร่วงแรง เครดิตสวิส ดิ่งลง 62% และหุ้น UBS ร่วง 14% ส่วนหุ้นแบงก์อื่นๆ ก็ปรับตัวลงไป 5-6% โดยเฉพาะประเด็นการรับรู้ผลขาดทุนจากการถือตราสารหนี้ สาเหตุหลักมาจากการ write off ตราสารหนี้ของธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งเป็นตราสารหนี้ที่สามารถแปลงหนี้เป็นหุ้น และนับเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Additional 1:AT1) มูลค่า 1.73 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐถูกตัดเป็นศูนย์ และยังมีธนาคารอื่นในยุโรปที่มีตราสารหนี้ประเภทนี้ นักลงทุนกลัวว่าจะเป็นปัญหากลายเป็นโดมิโนจากความเสี่ยงในการถือตราสารหนี้ AT1 ส่งผลให้ช่วงบ่ายตลาดหุ้นยุโรปผันผวน และส่งผลมาถึงตลาดเอเชียเช่นกัน ดัชนีทำจุดสูงสุดของวันที่ 1,569.76 จุด ทำจุดต่ำสุดที่ 1,543.47 จุด หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 482 หลักทรัพย์ ลดลง 1,148 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 387 หลักทรัพย์
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกเรื่องยุบสภา ทำให้จากที่ดัชนีลงไปลึกถึง 20 จุดหลังจากประกาศยุบสภาจึงเด้งขึ้นมาลดช่วงลบไปได้บ้าง
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ (20 มี.ค.)
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,656.24 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,368.39 ล้านบาท ปิดที่ 980.00 บาท ลดลง 16.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,046.87 ล้านบาท ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง 4.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,943.92 ล้านบาท ปิดที่ 209.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,810.69 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
