ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันอังคาร (14 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลหลังจากรัฐบาลสหรัฐและทั่วโลกได้ออกมาสร้างความเชื่อมั่นว่าจะสามารถควบคุมวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร นอกจากนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่อ่อนแรงลงยังเป็นปัจจัยหนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,155.40 จุด พุ่งขึ้น 336.26 จุด หรือ +1.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,919.29 จุด เพิ่มขึ้น 63.53 จุด หรือ +1.65% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,428.15 จุด พุ่งขึ้น 239.31 จุด หรือ +2.14%
ทั้งนี้ สหรัฐได้ออกมาตรการฉุกเฉินเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ โดยกระทรวงการคลังสหรัฐยืนยันว่า ประชาชนที่ฝากเงินไว้กับ SVB และ SB สามารถเข้าถึงเงินฝากได้เต็มจำนวน ขณะที่เฟดประกาศจัดตั้งโครงการ “Bank Term Funding Program” เพื่อปกป้องสถาบันการเงินอื่นๆ ไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการล้มละลายของ SVB และ SB
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. แทนที่จะปรับขึ้น 0.50% ตามที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ชะลอตัวลงในเดือนก.พ. ประกอบกับการที่เฟดมีความกังวลว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่รุนแรงจะส่งผลกระทบต่อภาคธนาคารซึ่งกำลังเผชิญภาวะวิกฤตสภาพคล่องในขณะนี้
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 6.0% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 6.2% ในเดือนม.ค. และดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 5.5% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 5.6% ในเดือนม.ค.
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (14 มี.ค.) โดยเป็นการปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน หลังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งร่วงลงก่อนหน้านี้จากวิกฤตล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยด้วย ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 449.56 จุด เพิ่มขึ้น 6.76 จุด หรือ +1.53%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (14 มี.ค.) โดยเป็นการปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างหนักท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการล้มละลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอความแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังเกิดวิกฤต SVB ด้วย ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,637.11 จุด เพิ่มขึ้น 88.48 จุด หรือ +1.17% หลังร่วงลงวันเดียวหนักที่สุด 2.6% ในรอบกว่า 8 เดือน
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,141.57 จุด เพิ่มขึ้น 130.07 จุด หรือ +1.86%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,232.83 จุด เพิ่มขึ้น 273.36 จุด หรือ +1.83%
สำหรับสถานการณ์ตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 14 มี.ค.66 มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ดังนี้
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 32,155.40 จุด เพิ่มขึ้น 336.26 จุด, +1.06%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,919.29 จุด เพิ่มขึ้น 63.53 จุด, +1.65%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 11,428.15 จุด เพิ่มขึ้น 239.31 จุด, +2.14%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,141.57 จุด เพิ่มขึ้น 130.07 จุด, +1.86%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,232.83 จุด เพิ่มขึ้น 273.36 จุด, +1.83%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,637.11 จุด เพิ่มขึ้น 88.48 จุด, +1.17%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,008.90 จุด ลดลง 99.90 จุด, -1.41%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,201.10 จุด ลดลง 109.90 จุด, -1.50%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,222.04 จุด ลดลง 610.92 จุด, -2.19%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,348.97 จุด ลดลง 61.63 จุด, -2.56%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 15,360.42 จุด ลดลง 200.07 จุด, -1.29%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,245.31 จุด ลดลง 23.38 จุด, -0.72%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 19,247.96 จุด ลดลง 448.01 จุด, -2.27%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 57,900.19 จุด ลดลง 337.66 จุด, -0.58%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,641.81 จุด ลดลง 145.14 จุด, -2.14%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,393.33 จุด ลดลง 151.12 จุด, -2.31%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,393.83 จุด ลดลง 28.00 จุด, -1.97%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,129.75 จุด ลดลง 2.62 จุด, -0.08%