ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (13 มี.ค.) 90.50 จุด เนื่องจากการนักลงทุนวิตกกังวลว่า การล้มละลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (Silicon Valley Bank) หรือ SVB จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบธนาคาร อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 31,819.14 จุด ลดลง 90.50 จุด หรือ -0.28%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,855.76 จุด ลดลง 5.83 จุด หรือ -0.15% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,188.84 จุด เพิ่มขึ้น 49.96 จุด หรือ +0.45%
อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังสหรัฐและเฟดพร้อมใจกันออกมาตรการกู้วิกฤตเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ประชาชนที่ฝากเงินไว้กับ SVB และธนาคารซิกเนเจอร์ แบงก์ (Signature Bank) ซึ่งถูกสั่งปิดกิจการด้วยนั้น สามารถเข้าถึงเงินฝากได้เต็มจำนวนตั้งแต่วันจันทร์ที่ 13 มี.ค.เป็นต้นไป ขณะที่เฟดประกาศจัดตั้งโครงการ “Bank Term Funding Program” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสถาบันการเงินจากผลกระทบของการล้มละลายของ SVB
ด้านนักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 50% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังการล่มสลายของ SVB ซึ่งถือเป็นวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดของภาคธนาคารสหรัฐนับตั้งแต่เลห์แมน บราเธอร์สล้มละลายในปี 2551 โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 54.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค.นี้
ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเช่นเดียวกัน โดยร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดในปีนี้ เนื่องจากถูกฉุดจากหุ้นกลุ่มธนาคาร แม้ทางการต่าง ๆ จะเข้าดำเนินการเพื่อจำกัดผลกระทบจากการล้มละลายของธนาคาร SVB ของสหรัฐ ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 442.80 จุด ลดลง 10.96 จุด หรือ -2.42%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเช่นเดียวกัน เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงต่อจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของการล้มละลายของธนาคาร SVB ขณะที่การแข็งค่าของเงินปอนด์กดดันตลาดด้วย ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,548.63 จุด ลดลง 199.72 จุด หรือ -2.58% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 เดือน
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,011.50 จุด ลดลง 209.17 จุด หรือ -2.90%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่14,959.47 จุด ลดลง 468.50 จุด หรือ 3.04%
สำหรับสถานการณ์ตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 13 มี.ค.66 มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ดังนี้
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 31,819.14 จุด ลดลง 90.50 จุด, -0.28%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,855.76 จุด ลดลง 5.83 จุด, -0.15%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 11,188.84 จุด เพิ่มขึ้น 49.96 จุด, +0.45%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,011.50 จุด ลดลง 209.17 จุด, -2.90%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,959.47 จุด ลดลง 468.50 จุด, -3.04%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,548.63 จุด ลดลง 199.72 จุด, -2.58%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,108.80 จุด ลดลง 35.90 จุด, -0.50%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 7,311.00 จุด ลดลง 37.20 จุด, -0.51%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 27,832.96 จุด ลดลง 311.01 จุด, -1.11%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,410.60 จุด เพิ่มขึ้น 16.01 จุด, +0.67%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 15,560.49 จุด เพิ่มขึ้น 34.29 จุด, +0.22%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,268.70 จุด เพิ่มขึ้น 38.62 จุด, +1.20%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 19,695.97 จุด เพิ่มขึ้น 376.05 จุด, +1.95%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 58,237.85 จุด ลดลง 897.28 จุด, -1.52%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 6,786.96 จุด เพิ่มขึ้น 21.65 จุด, +0.32%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,544.45 จุด ลดลง 45.43 จุด, -0.69%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,421.83 จุด ลดลง 11.25 จุด, -0.79%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,132.37 จุด ลดลง 45.06 จุด, -1.42%