โบรกฯ ประเมินดัชนี หุ้นไทย แกว่ง 1,535-1,560 จุด จากปัจจัยบวกสหรัฐประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงการเมืองสหรัฐ การประกาศกำไรแบงก์ Q4 รวมถึงฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่ชะลอตัว
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด เปิดเผยภาพรวมตลาด หุ้นไทย วานนี้ (13 ม.ค.64) ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปิดที่ 1,547.31 จุด ปรับขึ้น 7.46 จุด หรือปรับขึ้น 0.48% และมีมูลค่าการซื้อขายราว 1 แสนล้านบาท โดยเป็นแรงซื้อในกลุ่มหลัก เช่น พลังงาน โรงไฟฟ้า และปิโตรเคมี ตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น รวมถึงความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ดัชนีสลับอ่อนตัวลงจากมูลค่าหุ้นในตลาด (Valuation) ที่ตึงตัว
ขณะที่แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ (14 ม.ค.) คาดว่า SET Index จะแกว่งตัว 1,535 – 1,560 จุด เนื่องจากคาดว่านักลงทุนจะจับตาไปที่การประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของ นายโจ ไบเดน รวมถึงสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงปัจจัยการประกาศงบปี 2563 ของกลุ่มธนาคารในช่วงกลางเดือน ม.ค. นอกจากนี้ กระแสเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ที่เริ่มชะลอตัวจะเป็นอีกปัจจัยให้ดัชนีผันผวน
ในส่วนของกลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกลงทุนรายตัว (Selective Buy) ในกลุ่มพลังงานสะอาด (Green Energy) และกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้แก่ EA GPSC และ KCE ถัดมาแนะนำ PTTEP PTTGC TOP และ IVL จากปัจจัยราคาน้ำมันดิบอยู่ระดับสูงและคาดว่างบไตรมาส 4/63 จะเติบโต รวมถึงกลุ่มเดินเรือ ได้แก่ PSL TTA และ RCL อานิสงส์ค่าระวางเรือมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น
ขณะที่หุ้นเด่นแนะนำวันนี้ ได้แก่ TOP (ราคาปิดล่าสุด 60.00 บาท แนะนำซื้อที่เป้ราคา 64.00 บาท) คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/63 จะเพิ่มขึ้นเป็น 6.9 พันล้านบาทปรับขึ้นถึง 859% จากไตรมาสก่อน (QoQ) และปรับขึ้น 246% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว (YoY) เนื่องจากกำไรจากการดำเนินงานเป็นบวก อีกทั้งมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน (Stock Gain) และกำไรจากค่าเงิน (FX Gain) รวมถึงกำไรจากการขายเงินลงทุนในหุ้น GPSC
ถัดมาแนะนำ CBG (ราคาปิด 119.50 บาท ซื้อ/เป้า 145.00 บาท) คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/63 ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) จากมาตรการคนละครึ่งและผลิตภัณฑ์ใหม่ “Woody C+ Lock” ที่หนุนยอดขาย ขณะที่ต้นทุนลดลงจากการเดินเครื่องโรงงานผลิตขวดและแพ็คเกจจิ้งเอง