SET Index ปิดลบ 11.33 จุด จากแรงกดดันจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศกลับมาเพิ่มขึ้นติดต่อกัน คาดศบค.คงเคอร์ฟิวในการประชุมวันพรุ่งนี้ สอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับลงจากความกังวลโควิดสายพันธุ์เดลตาระบาด
นายพบชัย ภัทราวิชญ์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันที่ 9 ก.ย.64 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปิดที่ 1,629.12 จุด ลดลง 11.33 จุด หรือ 0.69% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 91,098.61 ล้านบาท โดยการเคลื่อนไหวของดัชนีวันนี้อ่อนตัวลง และปรับลงค่อนข้างลึกในการซื้อขายช่วงบ่าย จากปัจจัยกดดันจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศกลับมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ขณะที่การประชุมศบค.ในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.) คาดว่าจะพิจารณาลดจำนวนจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม แต่คาดว่าจะยังคงมาตรการเคอร์ฟิวต่อไป กดดันบรรยากาศการลงทุน
ส่วนตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ ส่วนใหญ่ปรับลงในแดนลบ จากที่นักลงทุนกังวลการกระจายของโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้ล่าช้าออกไป รวมถึงความไม่แน่นอนในการปรับลงวงเงินซื้อพันธบัตรตามนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE Tapering) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกด้วย

สำหรับกลุ่มหุ้นที่ปรับขึ้นแรง คือ กลุ่มธนาคาร ส่วนกลุ่มที่ปรับลงแรง ได้แก่ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มพลังงาน กลุ่มสื่อสาร กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มขนส่ง ขณะที่หุ้นปรับขึ้นแรงนำตลาด ได้แก่ BAY บวก 5.74% จากข่าวร่วมมือกับอีก 2 สถาบันการเงินปล่อยกู้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในภาคอุตสาหกรรม ทั้งกลุ่มยานยนต์ กลุ่มชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ และกลุ่มก่อสร้าง เพื่อช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องแก่ SMEs กว่า 1 หมื่นราย
LHFG บวก 21.14% ภายหลัง CTBC ธนาคารสัญชาติไต้หวัน เข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจธนาคารของ LHFG ได้เป็นอย่างดี LANNA บวก 6.96% ได้อานิสงส์จากราคาถ่านหินในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ทำจุดสูงสุดในรอบ 13 ปี