นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวถึงแนวโน้มวันนี้ (9 มี.ค.) คาดดัชนีฯ มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ หลังจากลงไป 1,600 จุด ก็มีแรงซื้อกลับขึ้นมาอย่างโดดเด่น โดยให้ติดตามตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค. และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จาก ADP ให้แนวรับไว้ที่ 1,600 จุด และแนวต้าน 1,630 จุด
ขณะที่ SET เมื่อวาน (8 มี.ค.) ปิดที่ 1,612.60 จุด ลดลง 5.91 จุด (-0.37%) มูลค่าการซื้อขาย 59,250.43 ล้านบาท ตอบรับถ้อยแถลงนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงกว่าคาด ทำให้ SET ร่วงลงมาที่แนวรับ 1,600 จุด ซึ่งเป็นแนวรับสำคัญ และยังคงรับอยู่ โดยเริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาบ้างแล้ว เนื่องด้วยมองว่าเศรษฐกิจไทยยังมีการเติบโตที่ดีกว่าหลายประเทศทั่วโลก และยังมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งที่เริ่มเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น โดยการซื้อขายระหว่างวันดัชนีปรับตัวระดับสูงสุด 1,615.51 จุด และต่ำสุด 1,599.87 จุด หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 533 หลักทรัพย์ ลดลง 944 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 483 หลักทรัพย์
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ (8 มี.ค.)
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,996.71 ล้านบาท ปิดที่ 137.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,278.15 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,437.73 ล้านบาท ปิดที่ 10.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,321.59 ล้านบาท ปิดที่ 8.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,319.57 ล้านบาท ปิดที่ 204.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง