บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองตลาดทุนสัปดาห์นี้ (6-10 มี.ค.) ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,600 และ 1,575 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,620 และ 1,630 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.พ. ของไทย ถ้อยแถลงของประธานเฟด ประเด็นการเมืองภายในประเทศ รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนม.ค. ข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนก.พ. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOJ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.พ. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค
ด้าน นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวถึงแนวโน้มหุ้นไทยสัปดาห์นี้ มีโอกาสรีบาวด์กลับขึ้นมาได้บ้างหลังจากลงมาใกล้แนวรับหลักที่ 1,600 จุดและยังคงยืนเหนือระดับแนวรับดังกล่าวได้ แต่ยังต้องติดตามการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐปลายสัปดาห์ เพราะส่งผลต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และในวันนี้ตลาดหุ้นไทยปิดทำการในวันมาฆบูชา จึงต้องติดตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศด้วย
ขณะที่ SET วันศุกร์ (3 มี.ค.) ปิดที่ 1,606.88 จุด ลดลง 5.76 จุด (-0.36%) มูลค่าการซื้อขาย 57,813.46 ล้านบาท การซื้อขายหุ้น ดัชนีแกว่งตัวลงต่อเนื่องสวนทางตลาดภูมิภาค โดยระดับสูงสุด 1,615.39 จุด และต่ำสุด 1,604.14 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ โดยเฉพาะ DELTA ไหลลง 2.40%
ขณะเดียวกันก็ไร้ปัจจัยหนุนใหม่เข้ามาช่วยพยุงดัชนี แม้จะเริ่มเห็นทิศทางแรงขายต่างชาติชะลอลงไปบ้างแล้วก็ตาม แต่ยังขาดปัจจัยบวกเข้ามาช่วยผลักดันการฟื้นตัวของดัชนีอย่างชัดเจน และตลาดยังคงมีความกังวลในเรื่องอัตราดอกเบี้ยสหรัฐสูงต่อเนื่องนาน หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 591 หลักทรัพย์ ลดลง 828 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 543 หลักทรัพย์
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ (3 มี.ค.)
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 6,644.32 ล้านบาท ปิดที่ 8.60 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,988.04 ล้านบาท ปิดที่ 976.00 บาท ลดลง 24.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,046.46 ล้านบาท ปิดที่ 139.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
HANA มูลค่าการซื้อขาย 2,033.01 ล้านบาท ปิดที่ 54.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,744.05 ล้านบาท ปิดที่ 70.50 บาท ลดลง 1.25 บาท