ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นมากกว่า 1% ในวันศุกร์ (31 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดตลาดปรับตัวขึ้นมากที่สุดในไตรมาสแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2565 เนื่องจากสัญญาณการชะลอตัวของเงินเฟ้อได้เพิ่มความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกในไม่ช้านี้
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (31 มี.ค.) ปิดที่ 33,274.15 จุด เพิ่มขึ้น 415.12 จุด หรือ +1.26%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,109.31 จุด เพิ่มขึ้น 58.48 จุด หรือ +1.44% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,221.91 จุด เพิ่มขึ้น 208.44 จุด หรือ +1.74%
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 3.2%, ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 3.5% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.4% โดยทั้งดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. ตลาดหุ้นดาวโจนส์ได้แรงหนุน หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. ขณะที่เงินเฟ้อชะลอตัวลง
โดยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 5.0% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.1% และชะลอตัวจากระดับ 5.3% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน และ ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% และชะลอตัวจากระดับ 0.6% ในเดือนม.ค. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% และชะลอตัวจากระดับ 4.7% ในเดือนม.ค.
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.3% หลังจากพุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนม.ค. ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.พ. และอัตราการออมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% จากระดับ 4.4% ในเดือนม.ค.
สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ในการประชุมเดือนพ.ค.นี้ มีแนวโน้มที่เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากการชะลอของเงินเฟ้อ