SET Index ฟื้นตัวกลับมาอยู่ที่ 1,420.87 จุด ปรับขึ้น 12.56 จุด หรือ 0.89% ตามทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค ‘สถาบัน-ต่างชาติ’ เข้าช้อนหุ้นใหญ่ราคาถูก โบรกฯ ประเมินแนวต้านพรุ่งนี้ 1,430 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยภาพรวมตลาดหุ้นไทยประจำวันที่ 1 ธ.ค.63 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) ปิดบวกที่ 1,420.87 จุด ปรับขึ้น 12.56 จุด หรือปรับขึ้น 0.89% และมีมูลค่าการซื้อขายรวม 78,416.50 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 1,430.03 จุด และต่ำสุดที่ 1,416.39 จุด
ทั้งนี้ PTT ปรับขึ้นนำตลาดมากที่สุด +2.50% AOT +2.34% CPN +4.93% SCB +3.22% และ ADVANC +1.42% ขณะที่กลุ่มนักลงทุนสถาบันมียอดซื้อสุทธิ 701.42 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 608.14 ล้านบาท ส่วนกลุ่มนักลงทุนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 1,048.65 ล้านบาท และในประเทศขายสุทธิ 260.91 ล้านบาท
โดยการปรับขึ้นของ SET Index เป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับขึ้นราว 0.9-1% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาหุ้นฟื้นตัวกลับขึ้นมา (Rebound) หลังจากที่วานนี้ (30 พ.ย.) ถูกขายลดความเสี่ยงตามการปรับพอร์ตของดัชนี MSCI อาทิ IRPC และ TMB โดยกลุ่มพลังงาน แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงจากการเลื่อนประชุมกลุ่มโอเปกเป็นวันที่ 3 ธ.ค. แต่นักลงทุนยังเชื่อว่าจะเห็นการปรับลดกำลังการผลิตในระยะถัดไป
ขณะที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ พบว่า มูลค่าหุ้น (Valuation) อยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนต่างประเทศกลับมาเพิ่มน้ำหนักลงทุน ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flow) ยังไหลกลับเข้ามาลงทุนในกลุ่มดังกล่าว
“วันนี้เป็นอีกวันที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นยอดขายสุทธิต่อเนื่อง 3 วัน โดยคาดว่า SET Index จะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ” นายวิจิตร กล่าว
อย่างไรก็ดี แนะนำนักลงทุนติดตามปัจจัยแวดล้อมตลาดหุ้นที่ยังมีความเสี่ยงกดดัน ได้แก่ ผลคำตัดสินคดีบ้านพักทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) รวมถึงผลการประชุมโอเปกในวันที่ 3 ธ.ค.ที่จะถึง โดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่แนวรับ 1,400 จุด และแนวต้านที่ 1,435 จุด
ทั้งนี้ หุ้นเด่นแนะนำลงทุน ได้แก่ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ KBANK และ TMB จากที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นไม่มาก เนื่องจากมีพอร์ตสินเชื่อเสี่ยงสูงอย่างกลุ่ม SME และกลุ่มท่องเที่ยว ถัดมาแนะนำกลุ่มพลังงานต้นน้ำ PTT เก็งข่าวบวกที่จะนำบริษัทลูกเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น และสุดท้ายแนะนำ RS จากที่ราคาหุ้นปรับขึ้นรับข่าวผลการดำเนินงาน