ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (28 เม.ย.) เนื่องจากการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอ็กซอน โมบิล และบริษัทอินเทลได้ช่วยบดบังความวิตกเกี่ยวกับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 34,098.16 จุด เพิ่มขึ้น 272.00 จุด หรือ +0.80%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,169.48 จุด เพิ่มขึ้น 34.13 จุด หรือ +0.83% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,226.58 จุด เพิ่มขึ้น 84.35 จุด หรือ +0.69%
ดัชนี S&P หุ้นกลุ่มพลังงาน บวก 1.5% หลังหุ้นเอ็กซอน โมบิล คอร์ป ปิดพุ่งขึ้น 1.3% รับรายงานผลกำไรไตรมาสแรกสูงเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการผลิตน้ำมันและก๊าซที่เพิ่มขึ้น และหุ้นอินเทล คอร์ป พุ่งขึ้น 4% หลังเปิดเผยว่า กำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง รวมถึงได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนชั้นนำ อาทิ อัลฟาเบท, ไมโครซอฟท์ และเมตา แพลตฟอร์มส อิงค์
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นของธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (First Republic Bank) หรือ FRB ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐ ร่วงลงอย่างหนักในการซื้อขายในวันศุกร์ หลังมีรายงานว่า บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) มีแนวโน้มที่จะเข้าพิทักษ์ทรัพย์ของ FRB
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (28 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส และการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมัน ซึ่งช่วยบดบังปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของยูโรโซน และการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 466.64 จุด เพิ่มขึ้น 2.61 จุด หรือ +0.56%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,491.50 จุด เพิ่มขึ้น 7.66 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,922.38 จุด เพิ่มขึ้น 121.93 จุด หรือ +0.77% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,870.57 จุด เพิ่มขึ้น 38.99 จุด หรือ +0.50%