หากคุณเป็นคนนึงที่กำลังมองหาเทคนิค หรือวิธีที่จะเก็บเงินให้ได้ผลสำเร็จ แบบไม่ให้พัง ตารางออมเงินเป็นตัวช่วยสำคัญที่คุณต้องคำนึงถึง และไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง!
เพราะด้วยฟังก์ชันการใช้งานของตารางเก็บเงินนี้เอง ที่จะช่วยให้การวางแผนการเงินของคุณเป็นไปอย่างไม่สะดุด จนกระทั่งสามารถสร้างพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นได้ แบบไม่ลำบากในการใช้ชีวิตมากจนเกินไป
ในบทความนี้ เราจะแนะนำเคล็ดลับการเก็บเงินที่มีประสิทธิภาพ และการใช้ตารางออมเงินอย่างถูกวิธี เพื่อนำคุณไปสู่การบรรลุเป้าหมายทางการเงินตามที่ตั้งใจไว้
ตารางออมเงิน
ตารางออมเงิน เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณวางแผนการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ต้องออมในแต่ละวัน และแสดงผลลัพธ์ของการออมเงินที่คุณต้องการให้เกิดขึ้น
โดยคุณสามารถที่จะกำหนดเป้าหมายการเงินได้อย่างชัดเจน และติดตามความก้าวหน้าของการออมเงินในแต่ละช่วงเวลาได้อย่างง่ายดายด้วยตารางออมเงิน จึงทำให้คุณมีการวางแผนทางการเงินที่มั่นคงมากขึ้นนั่นเอง
ด้วยการใช้ตารางออมเงินนี้ คุณจะสามารถดูได้ว่า ภายในระยะเวลาที่กำหนดนั้น เงินที่เก็บได้จะเติบโตเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ และยังสามารถนำข้อมูลจากตาราง มาปรับแผนการเงินให้เหมาะสม และสอดคล้องกับเป้าหมายที่คุณต้องการได้อีกด้วย
เริ่มออมแบบมือใหม่ กับตารางเก็บเงิน 1 เดือน
การกำหนดเป้าหมายการเงินและเริ่มออมเงิน อาจดูเหมือนเป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะตอนนี้คุณสามารถใช้ตารางออมเงิน 1 เดือน หรือตารางออมเงิน 30 วัน เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยในการวางแผน และติดตามการออมเงินได้อย่างง่ายๆ
ตารางออมเงินแบบนี้จะช่วยให้คุณมีเป้าหมาย และอัปเดตความคืบหน้าได้ เพียงคุณออมเงินตามตาราง หรือจดบันทึกจำนวนเงินที่ออมได้ในแต่ละวัน ซึ่งเมื่อทำติดต่อกัน ก็จะเห็นภาพรวมของเงินที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
อย่างเช่น สัปดาห์แรกของเดือน คุณอาจหยอดกระปุกวันละ 20 บาท สัปดาห์ที่ 2 เพิ่มเป็น 30 บาท สัปดาห์ที่ 3 เพิ่มเป็น 40 บาท ส่วนสัปดาห์สุดท้ายถึงสิ้นเดือน อาจเพิ่มเป็นวันละ 50 บาท รวมๆ เหมือนไม่เยอะนัก แต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียว
ตารางออมเงิน 1000 บาท ก้าวแรกสู่การออมเงิน
ตารางการออมเงิน 1,000 บาท เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การจัดการเงิน มีความเป็นระเบียบ สม่ำเสมอ และต่อเนื่อง เริ่มต้นด้วยการเก็บเงินเพียง 1,000 บาท ภายใน 110 วัน หรือ 3 เดือนกว่า เพียงเท่านั้นก็จะได้เงินจำนวนนี้มาอยู่ในมือแล้ว
ซึ่งจากตารางนี้ ช่วง 60 วัน หรือ 2 เดือนแรก คุณจะเริ่มเก็บเงินเพียงวันละ 5 บาท เรียกได้ว่า ไม่ว่าใครก็คงทำได้แน่นอน หลังจากนั้น จึงเก็บเงินเพิ่มขึ้น จนครบกำหนด 110 วัน ก็จะกลายเป็นเงินอีกก้อนหนึ่งที่สามารถเอาไปใช้จ่าย หรือลงทุนต่อได้
ขยับมาออมเพิ่มขึ้น กับตารางออมเงิน 3000 บาท
การออมเงินไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยตารางออมเงิน 3,000 บาท โดยสิ่งที่คุณต้องทำคือ แบ่งเงินของคุณในแต่ละวัน มาออมตามจำนวนที่ระบุไว้ในตาราง ซึ่งจะเริ่มต้นจาก 5 บาท ไปจนถึง 50 บาท ในช่วง 40 วันสุดท้าย เพียงเท่านี้ก็จะเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้
โดยตารางนี้ มีระยะเวลาออมเป็นเวลา 110 วันเท่านั้น แล้วถ้าคุณเก็บเงินได้ตามกำหนดทุกวัน ก็จะสามารถออมเงินได้ถึงจำนวน 3,000 บาท ซึ่งสามารถนำไปต่อยอด หรือซื้อข้าวของต่างๆ ได้มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการจัดทริปไปต่างจังหวัด โทรศัพท์แบบ Smart Phone หรือเครื่องฟอกอากาศดีๆ ซักเครื่อง ก็จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นอีกเยอะเลย
เก็บเงินให้ถึงครึ่งหมื่นกับ ตารางออมเงิน 5000 บาท
ตารางออมเงิน 5,000 บาท เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถออมเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในระยะเวลา 110 วัน โดยถ้าหากคุณสามารถเก็บเงินได้ตามนี้ ก็จะมีเงินออมทั้งหมด 5,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่เรียกได้ว่า น่าพอใจอยู่ไม่น้อย ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้
แล้วถ้าคุณนำเงิน 5,000 บาท ก้อนนี้ไปลงทุนต่อในสินทรัพย์ที่มีผลตอบแทนดี อย่างพวกหุ้นหรือกองทุน ภายในระยะเวลาอีกไม่กี่ปี คุณอาจเป็นหนึ่งในคนที่มีเงินเก็บหลักแสน จากเงินลงทุนเริ่มต้นก้อนนี้ก็เป็นได้
ตารางออมเงิน 10000 บาท เป็นจริงได้ ใน 3 เดือนกว่า!
ตารางออมเงิน 10,000 บาท เป็นตารางที่มีรูปแบบน่ารักและใช้งานง่าย เริ่มต้นจากวันละ 10 บาท และเพิ่มจำนวนเงินเก็บในแต่ละวัน จนถึงวันละ 200 บาท ภายในระยะเวลา 110 วัน ซึ่งด้วยการเก็บเงินแบบนี้ คุณจะสามารถออมเงินได้จำนวนทั้งหมด ถึง 10,000 บาทเลยทีเดียว
โดยจุดเด่นของตารางออมเงิน 10000 บาทน่ารักๆ นี้ คือ คุณไม่ต้องวางแผนการออมเงินเอง เพียงแค่เก็บเงินตามจำนวนที่กำหนดในแต่ละวัน ตามตารางที่กำหนดไว้
ด้วยรูปแบบของตารางออมเงินน่ารักๆ และคำแนะนำที่ชัดเจน ตารางออมเงินนี้จะทำให้การเก็บเงินของคุณเป็นเรื่องง่าย และสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
บอกลาตารางออมเงินแบบเดิมๆ ด้วย MAKE by KBank แอปออมเงิน 365 วัน
MAKE by KBank เป็นแอปพลิเคชันสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการการออมเงินที่สะดวกสบาย และง่ายต่อการใช้งาน โดยไม่จำเป็นต้องใช้ตารางออมเงิน 1 เดือน หรือตารางเก็บเงิน 1 ปี แบบดั้งเดิมที่ซับซ้อน ซึ่งด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายภายในแอป จะช่วยให้คุณสามารถจัดการเงินได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการตั้งเป้าหมายการออมเงิน การติดตามรายการรายรับรายจ่าย รวมทั้งการสร้างแผนการใช้เงินอย่างรอบคอบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีวินัยในการเก็บเงินที่ดี และเพิ่มความมั่นคงในการเก็บเงินในระยะยาว ด้วยการจัดการเงินที่เป็นระบบ และฟีเจอร์ต่างๆ ของแอป MAKE by KBank
1. ฟีเจอร์ Cloud Pocket
นอกจากตารางออมเงินแล้ว การใช้ Cloud Pocket ในแอป MAKE by KBank ก็เป็นอีกเครื่องมือที่น่าสนใจในการออมเงิน เพราะเป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยแยกเงินของคุณ ออกเป็นสัดส่วนตามกระเป๋าที่คุณต้องการแบ่ง โดยไม่มีการลิมิตจำนวนใดๆ ซึ่งเป็นการทำบัญชีแบบง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณเก็บเงินได้อย่างเป็นระเบียบมากขึ้น
ถ้าใครยังไม่เห็นภาพ มาดูตัวอย่างกระเป๋าใน Cloud Pocket กันเพิ่มเติม เช่น
– กระเป๋ารายจ่ายประจำ: ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าผ่อนคอนโด
– กระเป๋าค่าใช้จ่ายในโอกาสพิเศษ: เลี้ยงปาร์ตี้กับเพื่อนๆ การซื้อของให้ตัวเอง
– กระเป๋าเงินเก็บระยะยาว: เงินลงทุนสำหรับทำธุรกิจ การเก็บเงินเพื่อเกษียณ
จะเห็นได้ว่า ด้วยฟีเจอร์ Cloud Pocket คุณสามารถแยกแยะ และจัดการเงินได้อย่างเหมาะสม ที่สำคัญ ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้จ่ายเงินเกินตัวอีกด้วย
2. ฟีเจอร์ Expense Summary
Expense Summary เป็นอีกฟีเจอร์ขั้นเทพที่ช่วยในการจัดการเงิน ซึ่งบางคนอาจเรียกว่า ฟีเจอร์สรุปรายจ่ายรายเดือน โดยฟีเจอร์นี้จะทำหน้าที่ในการสรุปค่าใช้จ่ายแต่ละอย่าง ในทุกๆ เดือนอย่างชัดเจน โดยจะแยกออกเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ทั้งหมด 6 ประเภท ได้แก่
– ค่าอาหาร
– การช้อปปิ้ง
– การเดินทาง
– ความบันเทิง
– การชำระบิล
– อื่นๆ
แน่นอนว่า จุดเด่นของฟีเจอร์ Expense Summary คือ การช่วยให้คุณเห็นภาพรวมได้อย่างชัดเจนว่า คุณควรปรับเปลี่ยนการใช้เงินในแต่ละด้านหรือไม่ อย่างไร และสิ่งไหนที่ใช้จ่ายไปมากที่สุด
ซึ่งจะทำให้การเก็บเงินตามตารางออมเงินของคุณนั้น ไม่มีรายการค่าใช้จ่ายมากวนใจ และสามารถทำได้ตามเป้าหมายในตารางได้ในที่สุด
สรุป
แม้ว่าการออมเงินจะดูเหมือนเป็นเรื่องพื้นฐาน ไม่ซับซ้อน แต่หลายคนก็ทำยากพอสมควร ซึ่งการใช้ตารางออมเงิน ก็จะช่วยให้มีการวางแผนอย่างมีระบบ และเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น
เพราะตารางออมเงินจะช่วยให้คุณสามารถกำหนดเป้าหมายการออมเงินได้อย่างชัดเจน คุณจะเห็นภาพว่า ต้องออมเงินเท่าไหร่ต่อเดือน เพื่อให้ได้เงินที่ต้องการ ภายในระยะเวลาที่กำหนด
เพราะฉะนั้น คงไม่ผิดถ้าจะบอกว่า การใช้ตารางออมนั้น เป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยให้คุณมีความตั้งใจ และมุ่งมั่นในการออมเงินมากขึ้น จนกระทั่งประสบความสำเร็จทางการเงินตามที่คาดหวังไว้ในอนาคต
