HomePR Newsรวมครบ! เรื่องที่ควรรู้ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน

รวมครบ! เรื่องที่ควรรู้ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน

เมื่อผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโดหรือผ่อนที่ดินมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ผู้ผ่อนสินเชื่ออาจเคยได้ยินเกี่ยวกับรีไฟแนนซ์บ้านมาบ้าง การรีไฟแนนซ์บ้านนั้นช่วยผ่อนสินเชื่อดังกล่าวได้เร็วขึ้น Refinn ที่มีความเชี่ยวชาญบริการด้าน  refinance บ้าน เพียงกรอกข้อมูลครั้งเดียว สามารถยื่นสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านได้หลายที่พร้อมกัน

รีไฟแนนซ์บ้าน คือ

รีไฟแนนซ์บ้าน คือ การย้ายสินเชื่อบ้านที่กู้ธนาคารเดิมไปธนาคารใหม่ มีข้อกำหนดว่าต้องผ่านการผ่อนมากกว่า 3 ปี ธนาคารใหม่จะเสนอดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านที่ถูกกว่าธนาคารเดิม ผลที่ได้คือดอกเบี้ยลดลง ยอดหนี้และยอดผ่อนชำระต่อเดือนถูกลง ส่งผลให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น ผู้ผ่อนบางรายยังทำการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อไปนำเงินบางส่วนไปรีโนเวทบ้านหรือปิดหนี้บัตรได้อีกด้วย

รีไฟแนนซ์บ้าน ช่วยอะไรบ้าง

อย่างที่ได้เกริ่นเรื่องรีไฟแนนซ์ คืออะไรในเบื้องต้น รีไฟแนนซ์บ้านเป็นการย้ายสินเชื่อบ้านที่กู้จากธนาคารเดิมไปธนาคารใหม่ เมื่ออนุมัติเอกสารผ่านแล้ว จะได้รับสิทธิประโยชน์จากการรีไฟแนนซ์บ้าน ดังนี้ 

  • ระยะเวลาในการผ่อนบ้านนานขึ้น ช่วยให้จำนวนเงินต้นที่ชำระค่าบ้านถูกลง ผู้ผ่อนสามารถวางแผนการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น
  • ลดดอกเบี้ยให้ถูกลงกว่าเดิม ทันทีที่เริ่มสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ มีปรับลดดอกเบี้ยที่ประมาณ 3% โดยนำยอดชำระคงเหลือคำนวณกับอัตราดอกเบี้ยใหม่
  • ปรับเปลี่ยนโครงสร้างหนี้จากกู้ร่วมเป็นกู้เดี่ยวได้ ปรับเปลี่ยนช่วยวางแผนจัดการภาระหนี้สินให้คล่องตัวยิ่งขึ้น พิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้รวมถึงเครดิตทางการเงินของผู้กู้ก่อน

รีไฟแนนซ์บ้านใช้เอกสารอะไรบ้าง

- Advertisement -

เมื่อครบกำหนดสัญญา refinance บ้าน จากสถาบันทางการเงินเดิม สนใจรีไฟแนนซ์บ้านกับสถาบันการเงินแห่งใหม่ ควรเช็กเอกสารการรีไฟแนนซ์บ้านโดยตรงกับธนาคารหรือตัวแทน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติให้ตรงตามกำหนดหรือไม่ ทั่วไปแล้วการเตรียมเอกสารสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านจะใช้เอกสารที่คล้ายคลึงกัน โดยมีทั้งหมด 3 ประเภท ดังนี้

ทันทีที่สัญญา refinance บ้าน จากสถาบันการเงินเดิมผ่อนครบตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ตัวผู้กู้เริ่มสนใจยื่นสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านกับสถาบันการเงินแห่งใหม่ เพื่อลดระยะเวลาผ่อนให้หมดเร็วขึ้น จะต้องเช็กเอกสารที่ใช้ก่อนส่งให้สถาบันการเงินแห่งใหม่ทั้งหมด หากขาดอะไรให้รีบติดต่อขอรับทันที ซึ่งเอกสารที่เตรียมส่งให้พิจารณารีไฟแนนซ์บ้านมี 3 ประเภท ดังนี้

เอกสารแสดงรายได้

เอกสารแสดงรายได้ เป็นเอกสารสำหรับสถาบันการเงินพิจารณาคุณสมบัติรีไฟแนนซ์บ้าน  ไม่ว่าจะเป็นแสดงสถานะการเงิน รายได้ รวมถึงประวัติการเดินบัญชี นอกจากนี้หากมีผู้กู้ร่วมกัน จะต้องให้ผู้กู้ยื่นเอกสารแสดงสถานะทางการเงินเช่นกัน สามารถแบ่งได้ 3 กรณี ดังนี้

  1. กรณีผู้มีรายได้ประจำ 
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือนหรือหนังสือรับรองการทำงาน
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือนหรือย้อนหลัง 12 เดือน 
  • สำเนาการหักรับรองภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ)
  • หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ (ถ้ามี)
  • มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ไม่เกิน 65 ปี

2. กรณีประกอบธุรกิจส่วนตัว

  • หนังสือรับรองการจดทะเบียน / ใบทะเบียนการค้า 
  • สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 12 เดือน (นามบุคคลและกิจการ)
  • สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีผู้กู้ / ผู้กู้ร่วม
  • สำเนาภ.พ. 30 (ถ้ามี) หรือภงด. 50/51 ย้อนหลัง 5 เดือน (ถ้ามี)
  • มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ไม่เกิน 65 ปี

3. กรณีประกอบอาชีพอิสระ (ฟรีแลนซ์)

  • มีรายได้รวมตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป
  • แสดงเอกสารที่มาของรายได้
  • ประกอบอาชีพนี้ไม่ต่ำกว่า 2 ปี
  • มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ไม่เกิน 65 ปี

เอกสารด้านหลักประกัน

ใช้สำหรับเป็นหลักประกัน รีไฟแนนซ์บ้าน ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเอกสารที่มาจากธนาคารเดิม รวมถึงเอกสารจากกรมที่ดิน ประกอบไปด้วย 

  1. สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ทด.13 หรือสัญญาให้ที่ดิน ทด.14 หรือสัญญาซื้อขายห้องชุด
  2. สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน หรือสำเนาสัญญาจำนองห้องชุด 
  3. สำเนาเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์หลักประกัน เช่น โฉนดที่ดิน หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด อช.2
  4. สำเนาใบเสร็จผ่อนชำระค่างวดบ้าน หรือรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน
  5. สำเนาสัญญาเงินกู้กับสถาบันการเงินเดิม

เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล

เอกสารรีไฟแนนซ์บ้านสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับผู้กู้โดยเฉพาะ เพื่อยืนยันกับทางสถาบันการเงินว่าเป็นผู้กู้จริง ประกอบไปด้วย ดังนี้

  1. สำเนาบัตรประชาชน
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน 
  3. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ถ้ามี)
  4. สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของคู่สมรส (ถ้ามี)
  5. สำเนาทะเบียนสมรสหรือสำเนาใบจดทะเบียนหย่า (ถ้ามี)
  6. กรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม ให้แนบสำเนาใบมรณบัตรรวมถึงทะเบียนสมรสของคู่สมรส

ต้องมีคุณสมบัติอย่างไรถึงรีไฟแนนซ์บ้านได้

ผู้ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน ควรศึกษาคุณสมบัติเบื้องต้นก่อนส่งเอกสารรีไฟแนนซ์บ้านให้กับสถาบันการเงินพิจารณา ซึ่งมีดังนี้

  • เป็นผู้มีสัญชาติไทย อาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
  • มีอายุตั้งแต่ 20 – 65 ปี
  • กรณีผู้มีรายได้ประจำ ต้องมีอายุงานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป เจ้าของกิจการส่วนตัว
    ต้องดำเนินการมากกว่า 2 ปี ผู้ประกอบอาชีพอิสระต้องมีอายุงานมากกว่า 2 ปี
  • มีประวัติใช้สินเชื่อไม่ต่ำกว่า 2 ปี
  • รับรายได้แต่ละเดือนตามวงเงินที่กำหนด

การรีไฟแนนซ์บ้านต้องดูอะไรบ้าง

หลังจากศึกษาคุณสมบัติเบื้องต้นก่อนดำเนินการส่งเอกสารรีไฟแนนซ์บ้านแล้วนั้น ผู้ดำเนินการเอกสารจะต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นสำหรับรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อพิจารณาความสามารถในการส่งยอดเงินตามที่สถาบันการเงินกำหนดไว้ ดังนี้

  • ดอกเบี้ย พิจารณาจากวงเงินดอกเบี้ยแต่ละสถาบันการเงิน ว่าลดดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านมากน้อยเพียงใดหลังส่งยอดเงินตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป หรือดอกเบี้ยลดลงคงที่ตลอดปีทันทีหลังการรีไฟแนนซ์บ้านอนุมัติ
  • วงเงินกู้ ศึกษารีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงินนอกจากรีไฟแนนซ์บ้านด้วยดอกเบี้ยต่ำสุด เมื่อประเมินแล้วจะได้วงเงินไม่เกิน 100% ของราคาพิจารณา
  • ระยะผ่อนชำระ พิจารณาจากค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้านที่คำนวณให้สมดุลกับเงินเดือนที่ผู้กู้ได้รับในแต่ละเดือน เพื่อให้ส่งยอดตรงเวลา  ทาง Refinn ช่วยพิจารณาโปรโมชั่นจากสถาบันการเงินต่าง ๆ สำหรับรีไฟแนนซ์บ้านโดยเฉพาะ คุ้มค่าที่ดอกเบี้ยลดลงอย่างแน่นอน

วิธีรีไฟแนนซ์บ้านของสินเชื่อบ้าน

ขั้นตอนขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ดำเนินการตามลำดับขั้นตอนดำเนินเอกสารให้กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ วิธีรีไฟแนนซ์บ้านมีดังนี้

1. ตรวจเช็กสัญญากู้ฉบับเดิม

เช็กเอกสารรีไฟแนนซ์บ้านจากสถาบันการเงินเดิม ส่วนใหญ่แล้วดำเนินเอกสารส่งให้กับที่ใหม่หลังผ่อนมาแล้ว 3 ปี ทั้งนี้หากสงสัยว่าผ่อนบ้าน 2ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม? ทำได้ แต่อาจจะต้องเสียค่าปรับเพิ่ม 2-3% จากยอดเงินคงเหลือ

2. เตรียมเอกสารสำคัญให้ครบถ้วน

เตรียมเอกสารรีไฟแนนซ์บ้านให้กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ เพื่อพิจารณาคุณสมบัติว่าเหมาะสมรีไฟแนนซ์บ้านหรือไม่ โดยเอกสารแต่ละประเภทจะมีเอกสารแยกย่อย ดังนี้

  • เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หากเปลี่ยนชื่อ – สกุลให้เตรียมใบเปลี่ยนชื่อมาด้วย หากมีคู่สมรสให้เตรียมสำเนาบัตรพร้อมสำเนาทะเบียนบ้านผู้สมรสด้วย หากมีผู้กู้ร่วม ทางผู้กู้จะต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมเช่นกัน นอกจากนี้จะต้องเตรียมสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
  • เอกสารด้านหลักประกัน เช่น สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ทด.13 หรือ ทด.14 สำเนาหนังสือสัญญาจำนองที่ดิน โฉนดที่ดิน หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด อช.2 รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน เป็นต้น
  • เอกสารแสดงรายได้ เช่น หนังสือรับรองเงินเดือนย้อนหลัง สลิปเงินเดือนย้อนหลังตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป หากดำเนินกิจการส่วนตัว ต้องแนบหนังสือจดทะเบียนร้านค้าหรือกิจการมาด้วย

3. ยื่นขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน

หลังจากเตรียมเอกสารสำหรับยื่นรีไฟแนนซ์บ้านเรียบร้อยแล้ว ทางผู้กู้จะต้องดำเนินการยื่นสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านให้กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ เจ้าหน้าที่สถาบันการเงินจะพิจารณาหลักประกันเพื่อดำเนินการรีไฟแนนซ์บ้านให้กับผู้กู้

4. ทำสัญญาสินเชื่อใหม่พร้อมจดจำนอง

ทันทีที่เอกสารรีไฟแนนซ์บ้านอนุมัติ ทางธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินเรื่องที่กรมที่ดิน ไม่ว่าจะเป็นทำสัญญาจดจำนองพร้อมเซ็นเอกสารภายในวันเดียวกัน ถือว่ารีไฟแนนซ์บ้านเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย

ค่าใช้จ่ายสำหรับรีไฟแนนซ์บ้าน

ค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้านนั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขโปรโมชั่นของแต่ละสถาบันการเงิน โดยมีค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่ผู้กู้ได้รับอนุมัติเอกสารผ่านจะต้องเตรียมตัวดังนี้

  • ค่าสำรวจและประเมินราคาหลักประกัน ขึ้นอยู่กับหลักประกันของแต่ละคน ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ราคา 2,000 – 3,000 บาท 
  • ค่าประกันอัคคีภัย เป็นไปตามมูลค่าบ้าน โดยเป็นประกันภาคบังคับ ราคาอยู่ที่ 1,000 – 3,000 บาท อาจมากกว่านี้ได้ขึ้นอยู่กับหลักประกันของแต่ละผู้กู้
  • ค่าธรรมเนียมจดจำนอง คิดเป็น 1% ของวงเงินกู้ ชำระให้กรมที่ดินโดยเฉพาะ
  • ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เช่น ค่าอากรแสตมป์สัญญาเงินกู้ คิดเป็นร้อยละ 0.05% ของวงเงินรีไฟแนนซ์บ้าน

ต้องผ่อนบ้านกี่ปีถึงรีไฟแนนซ์บ้านได้

ส่วนใหญ่แล้วรีไฟแนนซ์บ้าน จะเริ่มดำเนินการได้เมื่อผ่อนบ้านตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป โดยจะต้องผ่อนให้ครบตามกำหนดสัญญาที่ระบุไว้ ทั้งนี้อาจมีผู้กู้บางรายดำเนินเอกสารรีไฟแนนซ์บ้านล่วงหน้าก่อนครบกำหนด ทว่าไม่นิยมมากนัก อาจต้องเสียค่าปรับ 2-3 % ของยอดหนี้คงเหลือ

Refinn ช่วยเลือกโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์บ้านที่เหมาะกับคุณ

หากสนใจเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน บริการหนึ่งที่น่าสนใจคือ Refinn เพราะจะให้ช่วยรีไฟแนนซ์บ้านของคุณให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น จุดเด่นหนึ่งของ Refinn คือไม่คิดค่าบริการ เพียงกรอกข้อมูลครั้งเดียว ยื่นได้หลายครั้ง และทีมงานของรีฟินน์ยังมากประสบการณ์ สามารถให้คำแนะนำเอกสารรีไฟแนนซ์บ้าน รวมถึงติดตามงานจนดำเนินการเสร็จสิ้น นอกจากนี้ยังช่วยเปรียบเทียบคุณสมบัติผู้กู้ ประเภทหลักทรัพย์ที่มีให้เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้านอีกด้วย

สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าควรรีไฟแนนซ์บ้านกับสถาบันการเงินแห่งไหน หรือสมัครแบบใดที่ลดดอกเบี้ยได้จริง รวมถึงลดระยะเวลาผ่อนบ้านให้ไวขึ้น ขอแนะนำบริการรีไฟแนนซ์บ้านจาก Refinn ที่ช่วยให้สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น

เพียงแค่คุณกรอกข้อมูลรีไฟแนนซ์ครั้งเดียว สามารถยื่นสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านได้หลายสถาบันการเงินในครั้งเดียวจบ นอกจากนี้ทางเรายังมีทีมงานมากประสบการณ์ในการรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติผู้กู้ ประเภทหลักทรัพย์ที่คุณมีให้เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้านในแต่ละเดือนอีกด้วย

สรุปเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน

รีไฟแนนซ์บ้าน คือ การย้ายสินเชื่อกู้บ้านหลังผ่อนได้ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป หลังดำเนินการเสร็จสิ้น ผู้กู้จะได้รับดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านราคาถูกลง สถาบันการเงินบางแห่งสามารถเพิ่มวงเงินกู้ได้ ทั้งนี้ผู้กู้ควรศึกษารีไฟแนนซ์บ้านให้รอบคอบ เลือก refinance บ้านกับสถาบันการเงินที่น่าไว้วางใจ รวมถึงเก็บเอกสารรีไฟแนนซ์บ้านให้ครบถ้วนก่อนดำเนินการผ่อนอีกด้วย

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News