นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดข้อมูลสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย ช่วงเดือน มกราคม – มีนาคม ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางปี 2562 สืบเนื่องจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ส่งผลต่อการบริโภคภายในประเทศชะลอ จนมาถึงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก
โดยในระยะแรกที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ส่งผลให้มีการจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 ประกอบกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน (PM2.5) ทำให้กระทบกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
สทท. คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นด้านการท่องเที่ยว จะอยู่ที่ 57 ซึ่งต่ำกว่าไตรมาสที่ 4/2563 (88) และเป็นตัวเลขดัชนี้ความเชื่อมั่นที่ลดลงต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี
สำหรับในไตรมาส 1/2563 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 6.7 ล้านคน ลดลงร้อยละ 37.96 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 และคาดว่ามีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 343,130 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 38.4 จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562
สทท. ประเมินว่าหากหากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 คลี่คลายได้เร็ว ภายใน 6 เดือน เมื่อสิ้นปี 2563 ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีประมาณ 26.59 ล้านคน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 33.19 และคาดว่ามีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีประมาณ 1.23 ล้านล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 36.38
เพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายและบรรเทาลง สทท. เสนอให้ภาครัฐใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดด้วยวิธีจำกัดการเดินทาง และใช้อำนาจตามพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน บังคับให้ประชาชนผู้เดินทางไปในพื้นที่สาธารณะใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยแบบต่าง ๆ เพื่อลดอัตราการแพร่ระบาดของโรค
นอกจากนี้ยังขอให้รัฐบาลกระชับงานด้านสื่อสารมวลชนให้เป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อสร้างความเข้าใจและความร่วมมือทุกภาคส่วน ในส่วนของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ประธาน สทท. ยังระบุด้วยว่า รัฐบาลควรเตรียมมาตรการการด้านเศรษฐกิจไว้ล่วงหน้า และเร่งเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วนให้เกิดผลในทางปฏิบัติ ซึ่งจะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้เร็ว หลังสถานการณ์ระบาดผ่านพ้นไป