พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เมื่อช่วงเวลา 18.00 น. ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 เดือนธันวาคม 2563 ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่หลายประเทศรายงานว่าร้ายแรงที่สุด ขอให้คนไทยพร้อมรับผลกระทบ ทั้งด้านเศรษฐกิจที่จะกลับมาฟื้นตัวช้า การพาคนต่างชาติเข้ามาในประเทศให้น้อยที่สุด ทำให้ทุกภาคส่วนต้องเข้มงวดทุกช่องทาง
“เราต้องจำไว้ว่า เพียงคนไม่กี่คนที่ละเลยความรับผิดชอบต่อสังคม และมีพฤติกรรมที่เห็นแก่ตัว จะสร้างปัญหาให้คนเป็นล้านๆ ได้ ผมจึงต้องขอให้คนไทยทุกคน ใช้ชีวิตในแต่ละวัน อย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมในระดับที่สูงมากกว่าปกติ และขอให้ทำด้วยความภูมิใจว่า สิ่งที่ทุกคนทำ ทุกวัน ทุกวัน แม้จะดูเล็กน้อย แต่มีผลกับทั้งประเทศ สร้างความแตกต่างให้ประเทศไทยได้ และทุกคนได้มีส่วนช่วยกันทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าอีกหลายประเทศ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นที่ สมุทรสาคร อยู่ในขั้นของการสอบสวนโรคเชิงลึก ส่วนขบวนการลักลอบเข้าเมือง นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะนำคนผิดมาลงโทษทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะต้นเหตุในการระบาดระลอกใหม่นี้มาจาก กลุ่มแรงงานต่างด้าว
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจประกาศมาตรการที่เข้มข้นขึ้น อาจมีการประกาศงดจัดงาน แต่ในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากเราผ่อนปรนมากเกินไป โควิด-19 จะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง สังเกตุได้จากหลายประเทศที่กลับมาใช้มาตรการที่เข้มงวดอีกครั้งหนึ่ง เช่นประเทศต่าง ๆ ในยุโรป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมทุกภาคส่วนที่ช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ตลอดมา พร้อมทั้งกล่าวตำหนิผู้ที่ละเลยที่ทำให้เกิดการระบาด
ในส่วนของ วัคซีนโควิด-19 นายกรัฐมนตรี ขอให้คนไทยมั่นใจว่าจะได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึง โดยล่าสุดรัฐบาลได้เซ็นต์สัญญากับบริษัทวัคซีนระดับโลกมาตั้งฐานการผลิตวัคซีนในไทยด้วย
“ในช่วงเวลานี้ ที่พายุโควิดนอกประเทศไทย โหมกระหน่ำรุนแรงขึ้นอีก เรายิ่งต้องระมัดระวังให้มากขึ้น ผมขอให้คนไทยทุกคนให้ความร่วมมือ และอยู่เคียงข้าง ต่อสู้ไปด้วยกัน ให้ผ่านพ้นสถานการณ์ไปให้ได้ ขอบคุณมากครับ” นายกรัฐมนตรี กล่าว