HomePoliticsผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ประกาศงดให้บริการเส้นทางมุ่งสู่ 'ราชประสงค์'

ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ประกาศงดให้บริการเส้นทางมุ่งสู่ ‘ราชประสงค์’

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประกาศผ่าน Facebook ว่า รถโดยสารประจำทางทุกประเภท (รถโดยสาร ขสมก., รถเอกชนร่วมบริการ, รถตู้โดยสารปรับอากาศ) จะให้บริการรับ – ส่ง ประชาชน ถึงบริเวณป้ายหยุดรถโดยสาร ในรัศมี 5 กิโลเมตร ก่อนถึงแยก ราชประสงค์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินรถผ่านพื้นที่การชุมนุมฯ ตั้งแต่วันนี้ (16 ตุลาคม 2563) เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

โดยในขณะนี้ ขสมก. อยู่ระหว่างการจัดเส้นทางเดินรถ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และจะรีบอัพเดทข้อมูลการเดินรถให้ผู้ใช้บริการรับทราบผ่านทาง FaceBook BMTA องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ, www.bmta.co.th และช่องทางอื่นๆ โดยเร็ว
เช่นเดียวกับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) ประกาศผ่าน Facebook ว่า วันนี้ (16 ต.ค. 2563) รถไฟฟ้าบีทีเอส ปิดให้บริการชั่วคราว 2 สถานี ได้แก่ สถานีราชดำริ และสถานีชิดลม ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป จนปิดให้บริการ
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส แจ้งว่า ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร ตาม พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยอ้างถึงคำสั่งดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ห้ามใช้เส้นทางคมนาคมดังต่อไปนี้
ถนนเพลินจิต จากแยกราชประสงค์ถึงแยกชิดลม
ถนนราชดำริ จากแยกประตูน้ำ ถึงแยกราชดำริ
พนนพระรามที่ 1 จากแยกราชประสงค์ ถึงแยกเฉลิมเผ่า
ข้อ 2 ห้ามใช้ หรือเข้าไปในอาคารหรือสถานที่ดังต่อไปนี้ ระหว่างเวลา 15.00 ถึง 02.00 น. ของวันรุ่งขึ้น
– สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสราชดำริ และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลม
– ทางเชื่อมระหว่างตึก หรือทางเดินระหว่างอาคารสูง (Skywalk) ตั้งแต่บริเวณรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม ถึงบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพลินจิต
บริษัท จึงขอแจ้งว่า ในวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไปจนปิดให้บริการ จะปิดเป็นการชั่วคราวใน 2 สถานี ได้แก่ สถานีชิดลม และสถานีราชดำริ แต่ในสถานีอื่น ๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของ ผู้โดยสาร พนักงานและทรัพย์สินในการเดินรถ บริษัทฯ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสทุกท่าน ซึ่งบริษัทยังคงยืนยันในเป้าหมายที่จะให้บริการรถไฟฟ้าที่สะดวก รวดเร็ว และคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสิ่งสำคัญ

ขณะเดียวกัน รถไฟฟ้า MRT ยกระดับมาตรการ เพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร ตามที่กรมการขนส่งทางรางได้ออกประกาศมาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางราง ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 สำหรับผู้ให้บริการระบบขนส่งทางราง ในเขตท้องที่กรุงเทพมหานคร เพิ่มความเข้มข้น และยกระดับมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงนั้น รถไฟฟ้า MRT ได้ดำเนินการตามประกาศดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ โดยดำเนินมาตรการต่างๆ ดังนี้

1.เพิ่มความเข้มข้นและยกระดับมาตรการด้านการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคง โดยจัดเจ้าหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ เพิ่มความถี่ในการตรวจตราในเขตพื้นที่ระบบรถไฟฟ้า MRT

- Advertisement -

2. จัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานี รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในขบวนรถไฟฟ้าอย่างเพียงพอ

3.ตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ระบบสื่อสารพร้อมทั้งตรวจสอบอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ให้มีความพร้อมใช้งานตลอดเวลา

4.เตรียมแผนการอพยพผู้โดยสารในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

5. เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบกระเป๋า สัมภาระของผู้โดยสารก่อนเข้าใช้บริการ

6. ประชาสัมพันธ์ แนะนำแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยทั้งภายในสถานีและในขบวนรถไฟฟ้าเพื่อให้ประชาชนทราบ

MRT ขอความร่วมมือผู้โดยสารทุกท่าน ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบกระเป๋าหรือสัมภาระ และหากพบเห็นบุคคลหรือสิ่งของที่น่าสงสัย หรือไม่มีเจ้าของให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำสถานีทันที

ขณะเดียวกัน พลตำรวจตรี ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองบัญชาการตำรวจนครบาล , และพันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์การชุมนุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พลตำรวจตรียิ่งยศ ได้ประกาศเตือนมวลชนที่จะเดินทางมาร่วมชุมนุมบริเวณแยก ราชประสงค์ ในช่วงเย็นวันนี้เป็นครั้งที่ 2 และจะมีการประกาศเตือนครั้งที่ 3 ในเวลา 16.30 น. ซึ่งหลักการนี้ถือว่าเป็นหลักการสากลที่ใช้ในการแจ้งเตือนไม่ให้มีการชุมนุม พร้อมยืนยันคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ หากผู้ชุมนุมมีการปรับเปลี่ยนสถานที่ชุมนุม ตำรวจก็ได้มีแผนที่จะปรับกำลังให้สอดคล้องกับสถานการณ์ นอกจากนี้ตำรวจยังมีอำนาจในการเข้าตรวจค้น อาคารสถานที่ต่าง ๆ เพื่อระงับยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุร้าย หรือเป็นสถานที่สุ่มเสี่ยงที่ขัดต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในสถานการณ์ร้ายแรง เช่น กรณีที่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาตำรวจได้บุกตรวจค้นอาคารไทยซัมมิทนั้นก็ถือว่าเป็นหน้าที้ของฝ่ายสืบสวนที่มีอำนาจในการเข้าค้น ยืนยันว่าจะไม่ทำให้เกิดความรุนแรง ส่วนรายละเอียดที่เข้าข่ายความผิด ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้

พันตำรวจเอกศิริวัฒน์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ว่าพบผู้กระทำความผิดโพสต์ข้อความฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชักชวนให้ประชาชนเดินทางมาชุมนุมทั้งหมด 10 ราย แบ่งเป็นบัญชีเฟซบุ๊ก 5 ราย และทวิตเตอร์อีก 5 ราย ซึ่งทางกระทรวงได้เตรียมมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย เข้าแจ้งคงามกับตำรวจ ปอท. เร็ว ๆ นี้ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีใครบ้าง ส่วนจะมี “ไมค์ระยอง” หรือนายภาณุพงศ์ จาดนอก ยังทราบข้อมูลเนื่องอยู่ระหว่างการดำเนินการแจ้งความ

 

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News