ความตื่นกลัวการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีทสูญเสียมูลค่าหุ้นมากถึง 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 2 วันซื้อขายที่ต้องเผชิญกับความปั่นป่วนจนดิ่งตัวลงมากกว่า 6% ในวันจันทร์และอังคาร นับเป็นความเสี่ยงมากที่สุดรอบ 2 ปี
นอกจากนี้ แรงกระหน่ำขายหุ้น 2 วันในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาจะขยายในวงกว้างทั่วโลก ที่ทำให้นักลงทุนแห่ทิ้งหุ้นทัวโลกด้วย
ทั้งนี้ ตลาดหุ้น S&P 500 ซึ่งเป็นตลาดหุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐมีมูลค่าหุ้นที่สูญหายไปถึง 1.737 ล้านล้านดอลลาร์เพียงช่วง 2 วันเท่านั้น จากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์อาวุโสของ S&P Dow Jones Indices โดยที่เป็นจุดชนวนมาจากการที่นักลงทุนพากันมองว่าตลาดหุ้นเป็นสินทรัพย์เสี่ยงสูงเมื่อประเมินควบคู่กับความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มที่ชะลอตัวลงที่เป็นผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา
หลังจากที่ดัชนี Nasdaq Composite ร่วงลง 2.8% ในวันอังคาร ได้ทำให้ทั้ง 3 ดัชนีทั้งดัชนี S&P 500 และดัชนี Dow Jones Industrial Average พลิกกลับมาให้ผลตอบแทนที่เป็นลบนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
จากแรงเทขายที่กระหน่ำเข้าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดังกล่าว พบว่า มูลค่าที่สูญหายไปในวันจันทร์เป็นจำนวน 927,000 ล้านดอลลาร์และเป็นมูลค่าที่สูญหายในวันอังคารจำนวน 810,000 ล้านดอลลาร์แต่เมื่อเปรียบเทียบกับวันพุธสัปดาห์ก่อนที่ขึ้นไปทำสถิตินิวไฮนั้นเป็นมูลค่าที่สูญหายไปมากถึง 2.138 ล้านล้านดอลลาร์
ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 2 วันติดลบถึง 6.3% มาจากการดิ่งลงในวันอังคารจำนวน -3.03% มาปิดที่ 3,128 ขณะที่วันจันทร์ดิ่งลงที่ -3.35%
ส่วนดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงติดลบ 6.7% ใน 2 วัน มาจากการดิ่งลงในวันอังคาร 879.44 จุด หรือ -3.15% มาปืดที่ 27,081 ขณะที่วันจันทร์ดิ่งลงแรงถึง 1,031.61 จุด หรือ -3.56%
สำหรับดัชนี Nasdaq ดิ่งลงติดลบ 2 วันจำนวน 6.5% มาจากการดิ่งลงในวันอังคารที่ -2.77% มาปิดที่ 8,965 ขณะที่วันจันทร์ดิ่งลงที่ -3.71%
ในขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่ยังคงขยายตัวที่กระขายไปในวงกว้างมากขึ้น ล่าสุดมีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในสวิตเซอร์แลนด์ 1 ราย และในออสเตรียอีก 2 ราย สรุปยอดในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พบว่า มีผู้ติดเชื้อรวม 80,200 ราย และผู้เสียชีวิตจำนวน 2,704 ราย
นอกจากนี้ 3 ประเทศที่ถูกจับตามองว่ามีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะที่เกาหลีใต้มีผู้ติดเเชื้อในวันเดียวเมื่อวันอังคารเพิ่มขึ้น 169 รายเป็นจำนวน 1,146 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตมีจำนวน 11 ราย ส่วนที่อิหร่านมีผู้เสียชีวิต 16 รายและมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 95 ราย ขณะที่อิตาลีพบผู้ติดเชื้อจำนวน 322 รายและมีผู้เสียชีวิต 11 ราย
ท่ามกลางการดิ่งลงของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเนื่องจากความกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนานั้น ผลกระทบยังส่งผลถึงอัตราผลตอบแทนการลงทุนในบอนด์รัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ดิ่งตัวลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์มาแตะที่ 1.32% รวมทั้งอัตราผลตอบแทนการลงทุนในบอนด์รัฐบาลสหรัฐอายุ 30 ปีที่ดิ่งตัวลงต่ำสุดมาแตะที่ 1.79%
สวนทางกับทิศทางดัชนีค่าเงินดอลลาร์ที่ดีดตัวขึ้นไปเฉียดระดับ 100 ส่งผลให้ค่าเงินสกุลอื่นๆ อ่อนค่าลงในทิศทางที่ผันผวน ยกเว้นเงินเยนที่แข็งค่าแตะ 110 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 112 เยนเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่วนเงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องไปซื้อขายที่ระดับ 7.01-7.03 หยวนต่อดอลลาร์
รวมทั้งเงินบาทที่อ่อนค่าลงมากที่สุดมาแตะที่ระดับ 31.90 บาทต่อดอลลาร์ในวันนี้ จากะรดับ 29.69 บาทต่อดอลลาร์เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2019 เป็นการอ่อนตัวลงถึง 2.21 บาทต่อดอลลาร์หรืออ่อนค่าลง 7.44% ในช่วงเวลาพียง 2 เดือน
ทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีการปรับรลดดอกเบี้ยนโยบายลงในการประชุมเดือนมิถุนายนนี้จำนวน 0.25% จากระดับ 1.50-1.75% มาอยู่ที่ 1.25-1.50%