คล้อยหลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษายุบพรรคและตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่เป็นระยะเวลา 10 ปี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคที่ถูกยุบ ประกาศสถาปนา”คณะอนาคตใหม่” และนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคที่ถูกยุบประกาศเริ่มต้นปฏิบัติการ”ไฟลามทุ่ง” ท่ามกลางกองเชียร์ที่แห่แหนไปให้กำลังใจกันเนืองแน่นที่ทำการพรรค
ปฏิกิริยาความเคลื่อนไหวในเครือข่ายสังคมออนไลน์ เกิดการปะทะกันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนระหว่างขบวนการแนวร่วมกับขบวนการแนวต้านพรรคอนาคตใหม่ กระทั่งกลายเป็นสมรภูมิรบบนโลกออนไลน์ ที่ต่างฝ่ายต่างสาดกระสุนถ้อยคำกระหน่ำใส่กัน แบบรัวๆและรุนแรงราวกับไม่ใช่คนไทยด้วยกัน
ในรั้วสถาบันอุดมศึกษาที่เคยสงบราบเรียบ ปราศจากปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุบ้านการเมืองมาช้านาน ก็ถูกคำพิพากษายุบพรรคอนาคตใหม่ปลุกให้ตื่นขึ้น แสดงความรู้ร้อนรู้หนาวในสิ่งที่เกิดขึ้น
ที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ มีการแสดงปฏิกิริยาด้วยการขึ้นป้ายขนาดใหญ่ เขียนข้อความเชิงประชดประชัน ในช่วงเย็นของวันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษา
ทำนองเดียวกัน และในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่บริเวณลานปรีดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ก็มีการทอดผ้าเขียนข้อความประชดประชันความยุติธรรมในบ้านเมือง
น่าสังเกตว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งที่จุฬาฯ และธรรมศาสตร์ ออกจะชวนให้สงสัยว่าน่าจะเป็นปรากฏการณ์ที่ผ่านการ”บริหารจัดการ” เพื่อหวังผลให้เกิดแรงกระเพื่อมในหมู่นักศึกษาอย่างได้ผล
อย่างไรก็ตามแนวร่วมคณะอนาคตใหม่ ดูจะขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในมิติของขอบเขตครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางมากขึ้น และในมิติของจำนวนคนที่แสดงตัวเข้าเป็นแนวร่วม ซึ่งก้าวออกมาจากโลกเสมือนจริงในเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ มาเข้าร่วมในแฟลชม็อบที่ถูกจัดขึ้น
ปรากฏการณ์ที่มีผู้คนเข้าร่วมในแฟลชม็อบอย่างคับคั่ง เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ อาจทำให้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยตกตะลึงด้วยความคาดไม่ถึง…
ชุดความคิดเดิมๆของเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง มักจะประเมินพฤติกรรมคนหนุ่มสาวเจนเอ็กซ์ เจนวาย เป็นพวกนักเลงคีย์บอร์ด ที่มักจะถนัดจัดเจนในการแสดงปฏิกิริยาความคิดเห็นอยู่เฉพาะในโลกเสมือนจริง ผ่านเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ แต่ไม่น่าจะยอมรับได้กับความไม่สะดวกที่จะต้องออกมาร่วมชุมนุมตากแดดตากลม..ตากน้ำค้าง
การออกมาแสดงพลังของคนหนุ่มคนสาวผ่านแฟลชม็อบ ทำให้หน่วยงานความมั่นคง จำเป็นต้องทบทวนความคิดใหม่ และต้องเร่งดำเนินมาตรการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อหยุดยั้งไม่ให้แฟลชม็อบ ขยายวงเป็นไฟลามทุ่งให้จงได้
โจทย์ใหญ่ชวนให้ต้องคิดหนักตอนนี้คือ…ใคร???จะมีบารมีมากพอที่จะหลุดการบานปลายของแฟลชม็อบ ไม่ให้ยกระดับเป็น”ซูเปอร์ม็อบ” และจะใช้มาตรการอะไร???ในการสลายแฟลชม็อบ
คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ซึ่งถูกสถาปนาขึ้นตั้งแต่ยุคสมัยรัฐบาล คสช.และยั่งยืนมาถึงทุกวันนี้ พอจะพึ่งพาอาศัยให้ทำหน้าที่สร้างความสามัคคีปรองดองให้สมกับชื่อได้หรือไม่…
ตอบล่วงหน้าแบบปรามาสได้เลยว่า…ไม่มีทาง
ป.ย.ป.ไม่ต่างอะไรกับกลไกที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมา ให้คนฝันหวานไปว่า”ซักวันคนไทยจะได้รับการส่งคืนความสุขให้ตามสัญญา”
คณะกรรมการชุดที่ว่านี้ มีพี่น้อง 3 ป.ร่วมเป็นกรรมการอยู่ด้วย และตั้งมาแล้วหลายปีดีดัก พวกเราพลเมืองไทยทั้งหลายเคยรับรู้รับทราบผลงานการสร้างความปรองดองงอกเงยขึ้นมาบ้างหรือไม่…คำตอบคือไม่เคย
เมื่อป.ย.ป.มีแต่ชื่อ ไม่ปรากฏผลงานใดๆที่ชาวบ้านประทับใจ จึงหมดหวัง…สิ้นหวังที่จะฝากผีฝากไข้ให้ ป.ย.ป.ตัดไฟลามทุ่งเสียแต่ต้นลม แล้วบันดาลความปรองดองให้บังเกิดขึ้น
งานนี้เห็นทีจะต้องปลง แล้วปล่อยให้ทุกอย่างล่องลอยไปตามยะถากรรม…กรรมใครก็กรรมมัน