รัฐบาลลุงทั้งในร่างทรง คสช.และในร่างทรง ปชต.ได้ทะยอยปล่อยทีเด็ดประคับประคองเศรษฐกิจไปแล้ว 4 ชุดใหญ่ เพื่อหวังประคับประคองให้เศรษฐกิจรอดปลอดภัยจากภาวะเซื่องซึมสลึมสลือให้จงได้ แต่ดูเหมือนว่าปฏิกิริยาความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจโดยทั่วไปยังมีอาการงัวเงียโงนเงนโคลงเคลง…ไม่หืออือใดๆต่อทีเด็ดกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
ทีเด็ดชุดแรก เป็นเหมือน “ออเดิร์ฟ” ภายใต้กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท ถูกปล่อยออกไปในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นจังหวะเวลาของการเปลี่ยนผ่านจากรัฐบาลลุงในร่างทรง คสช. ไปสู่รัฐบาลลุง ในร่างทรง ปชต.ตามรัฐธรรมนูญที่อวดอุตริว่าเป็นฉบับปราบโกง
แรงจูงใจที่ทำให้รัฐบาลลุง ในร่างทรง คสช.ซึ่งอยู่ในช่วง”คาบลูกคาบดอก” หลังการเลือกตั้ง รอเวลาจัดตั้งรัฐบาลลุง ในร่างทรง ปชต. ต้องปล่อยทีเด็ดกระตุ้นเศรษฐกิจชุดแรกคืออาการทรุดตัวรุนแรงถึง 4.9 % ของมูลค่าการส่งออกเดือนมีนาคมปี 2562 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปี 2561 อีกทั้งยอดรวมมูลค่าการส่งออกไตรมาสแรกของปี 2562 ก็ “ติดลบ”
ทีเด็ดชุดแรกที่ปล่อยออกไป เป็นไปในลักษณะอัดฉีดแรงซื้อไปที่กลุ่มคนถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และเกษตรกร ควบคู่ไปกับสร้างแรงจูงใจให้เกิดการใช้จ่าย ในรูปของการลดหย่อนภาษี แต่แรงกระเพื่อมเป็นไปอย่างเบาบาง
ล่วงมาถึงเดือนสิงหาคม หลังจากรัฐบาลลุง กลายพันธุ์เป็นรัฐบาล ในร่างทรง ปชต.เรียบร้อยบริบูรณ์แล้ว ก็ได้ฤกษ์ปล่อยทีเด็ดชุดที่ 2 ตามออกมา ด้วยกรอบวงเงินกว่า 3 แสนล้านบาท
เนื้อหาสำคัญของทีเด็ดกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 ซึ่งโดดเด่นสะดุดหูสะดุดตาสะดุดใจอย่างที่สุดคือ “ชิม-ช้อป-ใช้” ด้วยการแจกฟรีเงิน “1 พันบาท” ควบคู่ไปกับสินเชื่อดอกเบี้ยถูกและเงื่อนไขผ่อนปรน ที่มีธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส.เป็นเจ้ามือรายใหญ่
ทีเด็ดชุดที่ 2 ก็ยังคงป๊อกแป๊ก ไม่เปรี้ยงป้าง ด้วยเหตุผลหลักมาจากเม็ดเงินก้อนใหญ่จาก 2 เจ้ามือรายใหญ่กว่า 2 แสนล้านบาทถูกกั๊กเอาไว้ ไม่ผลีผลามปล่อยออกมาเอาใจรัฐบาล
อากัปกิริยาที่ 2 เจ้ามือรายใหญ่ตั้งสติก่อนสตาร์ท อัดฉีดเม็ดเงินกว่า 2 แสนล้านบาทอุ้มเศรษฐกิจสนองมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นด้วยเหตุ “รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี”
ขืนบุ่มบ่ามทำตัวเป็น”มิสเตอร์ฮิตาชิ”…รัฐบาลสั่งปุ๊บทำปั๊บ ไม่ดูตาม้าตาเรือให้ดี เกิดจับพลัดจับผลูไปขัดกับ พรบ.วินัยการเงินการคลัง 2561 ความซวยก็จะมาเกยเสยเข้าให้เต็มพิกัด…ถึงตอนนั้นจะไปร้องแรกแหกกระเชอให้ลุง หรือเฮียช่วยดีล่ะ?
เมื่อทีเด็ดชุดที่ 2 ซึ่งแจ้งเกิดไปตอนปลายเดือนสิงหาคม เกิดอาการ”แป๊ก”ชนิดพลิกความคาดหมาย จำเป็นที่รัฐบาลต้องรีบแก้มือ ด้วยการเข็นทีเด็ดชุดที่ 3 ออกมาแบบปัจจุบันทันด่วนในเดือนตุลาคม ภายใต้มาตรการสมนาคุณคนซื้อบ้านโดยลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนโอนจากปกติ 2 % เหลือ 0.01% และลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการจดจำนอง
จากปกติ 1% เหลือ 0.01% สมทบกับเงินอัดฉีดจากสินเชื่อดอกเบี้ยถูกพิเศษเพียง2.5% ต่อปี สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยอีกจำนวน 50,000 ล้านบาท จากธนาคารอาคารสงเคราะห์
มาตรการสมนาคุณคนซื้อบ้านในทีเด็ดชุดที่ 3 ของรัฐบาล กำหนดเงื่อนไขในการได้สิทธิประโยชน์ส่วนลดค่าธรรมเนียม และอัตราดอกเบี้ยต่ำเตี้ยเรี่ยดินเอาไว้แค่ต้องเป็นการซื้อที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ประเภทใดก็ได้ ขอแค่ต้องเป็น”ของใหม่ป้ายแดง”และราคาต้องไม่เกินหลังละ 3 ล้านบาท แล้วก้อต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นเรียบร้อยภายในไม่เกินวันที่ 24 ธันวาคม 2563
จุดพลุปล่อยทีเด็ดชุดที่ 3 ไปแค่ไม่กี่อึดใจ รัฐบาลก็ปล่อยทีเด็ดชุดที่ 4เป็นทีเด็ดทิ้งทวนส่งท้ายปีตามออกมาติดๆในเดือนพฤศจิกายน ภายใต้มาตรการ”บ้านดีฟรีดาวน์ 50,000 บาท” โดยรัฐบาลชิงสวมบทซานตาครอส ตัดหน้าเทศกาลคริสต์มาส ด้วยการโปรยเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับแจกฟรีเงินดาวน์บ้าน 50,000 บาท เป็นรางวัลสำหรับผู้มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 100,000 บาท จำนวน 100,000 คน ที่ประสบความสำเร็จในการทำสัญญาณผูกพันเป็นลูกหนี้สถาบันการเงิน ในการซื้อที่อยู่อาศัยภายในระยะเวลาไม่เกินวันที่ 31 มีนาคม 2563
ขยันปล่อยทีเด็ดขนาดนี้ แต่จนแล้วจนรอดอัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจปี 2562 กลับไม่มีแนวโน้มจะโงหัวแตะระดับ 3 % ตามแรงปรารถนาของรัฐบาลได้เลย…