ในการแข่งขันใดๆ ย่อมมีทั้งผู้ชนะและผู้แพ้ ซึ่งแน่นอนว่ากว่าจะก้าวขึ้นเป็นผู้ชนะ จะต้องมีปัจจัยสนับสนุนอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง เราจะมาดูกันว่าปัจจัยเหล่านั้นคืออะไร และจะนำมาใช้กับการลงทุนได้อย่างไร
ผมดูการแข่งขันร้องเพลงทางรายการโทรทัศน์หลายรายการ ซึ่งกว่าคนๆ หนึ่งจะขึ้นไปถึงตำแหน่งผู้ชนะเลิศได้ จะต้องผ่านคู่แข่งขันหลายคนเพื่อพิสูจน์ความสามารถครั้งแล้วครั้งเล่า
สิ่งที่ผมเห็นจากบางรายการก็คือ ผู้ชนะเลิศไม่จำเป็นต้องมีอายุมาก ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการร้องเพลงมาก แต่พวกเขาต้องมีสิ่งเหล่านี้
- “เลือก” เพลงที่จะใช้ในการแข่งขันได้ดี เป็นเพลงที่ขับความสามารถของผู้ร้องให้โดดเด่นออกมาได้ และพอเหมาะพอดีกับความสามารถของผู้ร้อง ไม่ยากเกินศักยภาพ และไม่ง่ายจนกรรมการมองไม่เห็นความสามารถ
- “ฝึกฝน” อย่างจริงจังหนักหน่วง เพื่อให้แม่นยำในคำร้องทุกตัวโน้ต ปิดจุดอ่อนทุกๆ ด้าน สร้างสรรค์จุดเด่นที่จะตรึงใจผู้ชม และที่สำคัญคือ การฝึกฝนจนถึงระดับที่ควรจะเป็น จะทำให้เกิดความมั่นใจในการแข่งขันจริงได้
- บนเวทีแข่งขันจริง ต้องโชว์ความสามารถอย่างมั่นใจ ไม่หวั่นไหวกับทุกสายตาที่จ้องมอง ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการหรือผู้ชมทั่วไป สามารถทำได้ดีเหมือนที่ซ้อมหรือดีกว่าที่ฝึกซ้อมมา
[restrict]นั่นคือ 3 สิ่งที่ผมเห็นในตัวของผู้ชนะการแข่งขันร้องเพลงซึ่งแน่นอนครับว่าผู้ชนะที่ว่าต้องมีพื้นฐานที่ดีในเรื่องของเสียงวิธีการออกเสียงเทคนิคการร้องที่อาจจะได้มาจากการเรียนกับครูหรือผู้รู้โดยตรงหรือเรียนรู้ด้วยตนเองจากสื่อต่างๆ
ในการแข่งขันกีฬาผมก็คิดว่าไม่ได้แตกต่างกัน คุณสมบัติแรกคือ “การเลือก” โดยเลือกชนิดกีฬาที่เหมาะสมกับตนเอง…หากเป็นคนตัวเตี้ยแต่เลือกเล่นกีฬาบาสเก็ตบอล หรือวอลเลย์บอล ก็ดูจะไม่ค่อยมีอนาคตที่ดีนัก หากเป็นคนตัวผอมกะหร่อง ก็ไม่ควรเลือกกีฬาที่ต้องใช้พละกำลังในการปะทะ เช่น รักบี้ หรืออเมริกันฟุตบอล
เมื่อเลือกประเภทกีฬาได้แล้ว ก็ต้องเรียนรู้เทคนิคการเล่นให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งกระจ่างชัด ฝึกฝน ฝึกซ้อม อย่างจริงจัง หนักหน่วง มีวินัย และเมื่อมั่นใจว่ามีความสามารถมากพอก็หาสนามแข่งขันเพื่อทดสอบความสามารถของตนเองกับคู่แข่ง เพื่อจะได้รู้ว่าสิ่งที่ตนเองคิดว่าเก่งแล้วนั้นเก่งจริงหรือไม่
เมื่อผ่านกระบวนการขั้นตอนต่างๆ เหล่านั้นมาแล้ว จึงมีโอกาสที่จะก้าวสู่ความเป็น “ผู้ชนะ”
หากนำคุณสมบัติของผู้ชนะประกวดร้องเพลงและแข่งขันกีฬามาใช้ในการลงทุน เราจะพบว่า สามารถประสบความสำเร็จในการลงทุน จากกระบวนการเหล่านี้ได้เช่นกัน
- เรียนรู้เพื่อสร้างพื้นฐานที่ดีในการลงทุน โดยการเข้ารับการอบรมจากผู้รู้ เข้าฟังสัมมนาต่างๆ หรืออาจเรียนรู้ด้วยตัวเองจากการอ่าน ฟัง หรือชมคลิปเกี่ยวกับการลงทุน
- เลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทำธุรกิจด้วยตนเอง หรือการซื้อหลักทรัพย์ ซื้อสินทรัพย์เพื่อการลงทุน ก็ควรเลือกสิ่งที่ตัวเองมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และเป็นการลงทุนที่ไม่เสี่ยงจนเกินไป เช่น หากจะลงทุนธุรกิจของตนเอง ก็ต้องดูทุนรอนของตัวเองว่ามีมากน้อยแค่ไหน หากมีทุนน้อยแต่คิดการณ์ใหญ่เกินไปในการลงทุน ความเสี่ยงก็ย่อมมีมาก หรือหากลงทุนในหุ้น กองทุน ตราสารหนี้ ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ หรืออื่นๆ ก็ต้องมีความเข้าใจว่าความเสี่ยงของสินทรัพย์แต่ละประเภทอยู่ตรงไหนอย่างไร
- ก่อนจะทุ่มเงินก้อนโตในการลงทุน ควรเริ่มจากจำนวนเงินที่ไม่สูงมาก เพื่อฝึกฝนวิธีคิดวิเคราะห์และวิธีการตัดสินใจของตนเองเสียก่อน ว่าแบบไหนที่มีโอกาสสำเร็จ และแบบไหนที่มีโอกาสล้มเหลว หากการลงทุนนั้นมีเปอร์เซ็นต์ความล้มเหลวมากกว่าความสำเร็จ ก็ต้องฝึกฝนจนกว่าเปอร์เซ็นต์ความสำเร็จจะมากกว่าล้มเหลว จึงจะลงเงินที่สูงขึ้น หรือหากทำอย่างไรก็ไม่สำเร็จมากขึ้น แสดงว่าการลงทุนนั้นอาจไม่เหมาะกับตนเอง ต้องกลับไปสู่ขั้นตอนที่สองคือการเลือกใหม่
- ต้องคิดอยู่เสมอว่าการลงทุนด้วยเงินของตัวเองในแต่ละบาทแต่ละสตางค์นั้นมีค่ามาก ต้องไม่ประมาทเด็ดขาด ต้องรู้ช่วงจังหวะเวลาว่าเวลาไหนควรรุก เวลาไหนควรถอย หรือเวลาไหนควรอยู่เฉยๆ
หากทำได้ดังนี้คุณก็สามารถเป็นผู้ชนะในการลงทุนได้แม้ว่าจะไม่ได้มีอายุมากหรือมีประสบการณ์ยาวนานในการลงทุนก็ตาม [/restrict]