HomeOpinionsโอกาสดีที่พลาดได้

โอกาสดีที่พลาดได้

คำโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เราเห็นๆ กันอยู่จนชินตา หนึ่งในนั้นย่อมมีคำว่า “โอกาสดีๆ ที่พลาดไม่ได้” แล้วทำไมผมจึงมาแบบแปลกแหวกแนวว่า “โอกาสดีที่พลาดได้”… มันคืออะไร ยังไง  

หลายคนน่าจะเดาได้ว่าผมกำลังเขียนถึงการลงทุนในอะไรบางอย่างที่มีความผันผวนมีราคาขึ้นๆลงๆดังนั้นจังหวะและโอกาสจึงมีความสำคัญในการซื้อขาย

ตัวอย่างที่ชัดที่สุดและนักลงทุนน่าจะเข้าใจได้ง่ายที่สุดก็คือเรื่องการลงทุนในหุ้น ซึ่งหลักของการลงทุนก็คือ “ซื้อถูก-ขายแพง” เพราะฉะนั้น จังหวะของการซื้อก็คือช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากๆ หรือลดลงแรงๆ และจังหวะขายก็คือช่วงที่ราคาหุ้นปรับขึ้นอย่างมากหรืออย่างรวดเร็ว

- Advertisement -

[restrict]ดูจากภาพรวมของดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงปี 2562 นี้ก่อนก็แล้วกันครับ ว่าจังหวะซื้อรอบใหญ่ๆ ที่ดัชนีปรับลงลึกๆ มีกี่ครั้ง

รอบแรก วันที่ 16 มกราคม 2562 ซึ่งดัชนีลดลงจาก 1,609 จุด มาที่ 1,565 จุด ลดลง 44 จุด หรือลดลง 2.73% ก่อนที่จะดีดกลับมาที่ดัชนี 1,674 จุด ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นการปรับตัวขึ้นถึง 109 จุด หรือ 6.96% ซึ่งรอบนี้หากเลือกซื้อหุ้นถูกตัว จะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำทีเดียว เช่น หุ้นแบงก์กรุงเทพ (BBL) ราคาปรับขึ้นจาก 198 บาท ไปที่ 216 บาท เพิ่มขึ้น 9% ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน

รอบที่สอง วันที่ 18 มีนาคม 2562 ดัชนีลดลงจาก 1,674 จุด มาที่ 1,612 จุด ลดลง 62 จุด หรือลดลง 3.7% ก่อนที่จะพลิกกลับไปที่ดัชนี 1,683 จุด เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2562 เพิ่มขึ้น 71 จุด หรือ 4.4% ซึ่งรอบนี้หากใครซื้อหุ้น TRUE ที่ราคา 4.68 บาท แล้วไปขายที่ 5.40 บาท จะได้กำไรถึง 15.4% 

รอบที่สาม วันที่ 24 พฤษภาคม 2562  ดัชนีลดลงจาก 1,683 จุด มาที่ 1,599 จุด ลดลง 84 จุด หรือลดลง 4.99% ก่อนที่จะพุ่งไปที่ดัชนี 1,747 จุด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 เพิ่มขึ้น 148 จุด หรือเพิ่มขึ้น 9.26% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็วในระยะเวลาเพียงแค่เดือนเศษเท่านั้น รอบนี้หากใครซื้อหุ้น AOT ที่ราคา 62.75 บาท แล้วไปขายที่ 76.25 บาท จะได้กำไรถึง 21.5% ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่สูงมาก

รอบที่สี่ วันที่ 15 สิงหาคม 2562 ดัชนีลดลงจาก 1,747 จุด มาที่ 1,590 จุด ลดลง 157 จุด หรือลดลง 8.99% ก่อนที่จะดีดกลับไปที่ดัชนี 1,679 จุด เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2562 เพิ่มขึ้น 89 จุด หรือเพิ่มขึ้น 5.6% ซึ่งรอบนี้หากใครซื้อหุ้น BDMS ที่ราคา 22.80 บาท แล้วไปขายที่ 24.80 บาท จะได้กำไร 8.8% 

จะเห็นว่าในรอบ 9 เดือนของปี 2562 มีจังหวะที่หุ้นปรับตัวลงแรงถึง  4 รอบ ตอนนี้อยู่ในรอบที่ 5 ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะลงลึกไปถึงระดับไหน แต่จากสถิติที่ผ่านมา ดัชนีหลุดระดับ 1,600 จุด ถึง 3 รอบใน 4 รอบ และยังพบอีกว่า จุดสูงสุดใน 3 รอบแรกยกตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 1,674 เป็น 1,683 เป็น 1,747 จุด แต่รอบที่ 4 จุดสูงสุดอยู่ที่ 1,679 จุด ซึ่งต่ำกว่าจุดสูงสุดของรอบก่อนหน้านั้นค่อนข้างมาก

อีกประเด็นหนึ่งจะเห็นได้ว่า หุ้นที่ราคาปรับลงและปรับขึ้นในแต่ละรอบนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา บางรอบเป็นหุ้นกลุ่มธนาคาร บางรอบเป็นกลุ่มสื่อสารโทรคมนาคม บางรอบเป็นกลุ่มโรงพยาบาล ดังนั้น ใช่ว่าเมื่อดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับลงแรงแล้วจะเข้าซื้อหุ้นได้ทุกตัวทุกกลุ่ม ต้องดูที่อัตราการทำกำไรของบริษัทนั้นๆ ด้วย

สำหรับนักลงทุนที่เตรียมเงินสดไว้รอจังหวะซื้อหุ้นช่วงที่ดัชนีปรับลงลึกแล้วพลาดคงเห็นแล้วว่าโอกาสดีๆนั้นไม่ได้มีแค่ครั้งเดียวนี่แหละครับ…โอกาสดีที่พลาดได้

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง : บลจ.วรรณ แนะปรับพอร์ตลดความเสี่ยงก่อนเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

[/restrict]

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News