ถ้าจะมีรายการประเภทควิซโชว์ซักรายการ ตั้งคำถาม
“ธนาคารไหนในเมืองไทย..เฮี้ยนที่สุด ?” คำตอบที่ถูกต้องที่สุดน่าจะต้องเป็น “ธนาคารกรุงไทย”
ซึ่งมี “กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน” ในเครือข่ายธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด ข่ายธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่สุด
หลายคนอาจทำหน้าฉงนด้วยความสงสัย…ทำไม?
คำอธิบายคลายความสงสัยง่ายที่สุด คือความถี่ในการต้องคดีอาญา และถูกพิพากษาลงโทษจำคุกของกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทยมีจำนวนมากที่สุด เหนือกว่าทุกธนาคารในประเทศไทย
[restrict]กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยที่ประเดิมโทษจำคุกคนแรก คือนายตามใจ ขำภโต จากคดีทุจริตปล่อยให้กู้ยืมแก่กลุ่มนายสุระ จันทร์ศรีชวาลา
กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทยรายถัดมาที่พาเหรดเข้าคุกตามนายตามใจ ขำภโต ที่ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว คือนายวิโรจน์ นวลแข ซึ่งต้องคำพิพากษาคณะตุลาการศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้อมกับคณะกรรมการบริหาร และพนักงานเจ้าหน้าที่โขยงใหญ่
ต้นสายปลายเหตุที่นายวิโรจน์ นวลแข และคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ต้องโทษจำคุก ก็อีหรอบเดียวกับกรณีนายตามใจ คือทุจริตปล่อยให้กู้ยืมแก่กลุ่มธุรกิจกฤษดามหานคร ของนายวิชัย กฤษดาธานนท์
กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยอีกคนที่หวุดหวิดจะติดเชื้อทุจริตปล่อยกู้ แต่รอดคุกรอดตะรางไปได้แบบเฉียดฉิวคือนายศิรินทร์ นิมมานเหมินท์ น้องชายหัวแก้วหัวแหวนของนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ อดีตกรรมการผู้จัดการ ธนาคารไทยพาณิชย์และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน
กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทยอีกคนที่ปัจจุบันกลายเป็นอดีตไปเรียบร้อย แต่ยังต้องลุ้นด้วยใจระทึกจะ”ถูกหวย”จากการปล่อยกู้ก้อนมหึมาแก่กลุ่มธุรกิจ”เอ็นเนอร์ยี่เอิร์ธ”หรือไม่ ? คือนายวรภัค ธันยาวงษ์ ซึ่งเคยมีประเด็นว่าด้วยเรื่องราวผลประโยชน์ปาล์มอินโดฯกับอดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ผู้ถึงพร้อมด้วยความใสสะอาด
กรรมการผู้จัดการ..กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงไทย ที่ต้องโทษคดีทุจริตปล่อยกู้ บางส่วนได้รับโทษตามคำพิพากษา และล้มหายตายจากโลกนี้ไปแล้ว ขณะที่บางส่วนรับโทษแล้ว และได้รับการพักโทษแล้วปล่อยตัวเป็นอิสระ ด้วยเหตุชราภาพ มีปัญหาด้านสุขภาพ และถูกจำคุกไปแล้วเป็นระยะเวลา 1 ใน 3 ของโทษจำคุก
ในจำนวนนี้มีนายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการ และนายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา อดีตกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงไทย รวมอยู่ด้วย
ทำนองเดียวกันนายสนธิ ลิ้มทองกุล พี่ใหญ่ค่ายผู้จัดการ ซึ่งต้องโทษคดีปลอมแปลงเอกสารในการทำธุรกรรมกับธนาคารกรุงไทย ก็ได้รับพระราชทานอภัยโทษ หมดเคราะห์หมดโศกเช่นกัน
นับจากนี้ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับใครบางคนที่มีชื่อพร้อมลายเซ็นต์ปรากฏในเอกสารรายชื่อกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงไทย ที่เข้าร่วมประชุมครั้งที่48/2546 วันที่ 9 ธันวาคม 2546 เพื่อพิจารณาการปล่อยกู้แก่กลุ่มกฤษดามหานคร แต่ไม่ต้องรับโทษเยี่ยงกรรมการบริหารคนอื่นๆ
นับจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับคดีทุจริตปล่อยกู้กลุ่มกฤษดามหานคร เมื่อศาลฏีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทาการเมืองมีคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร และสั่งถอนหมายจับนายทักษิณ จากคดีดังกล่าว
ผลแห่งคำพิพากษายกฟ้องนายทักษิณ จะส่งผลกระทบต่อคำพิพากษาศาลคดีทุจริต กรณีนายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ถูกกล่าวหารับสินบนจากกลุ่มธุรกิจกฤษดามหานคร ในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้อย่างไร…เป็นเรื่องที่ต้องลุ้นระทึกกันต่อไป
นับจากนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆขึ้นกับบริษัทเอคิวเอสเตท จำกัด(มหาชน) ที่แปลงโฉมมาจากบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด(มหาชน) ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2557 ซึ่งมีนายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ทำหน้าที่ประธานการประชุม
น่าสังเกตว่าทุกวันนี้นายยงยุทธ ผันตัวเองมาทำธุรกิจร่วมกับกลุ่มเอสซีแอสเส็ทของทายาทนายทักษิณ ชินวัตร ภายใต้ชื่อ”สโคป” และมีโครงการลงทุนสร้างคอนโดมิเนียมหรูมูลค่า 7,800 ล้านบาทแถวซอยหลังสวน ใกล้เซ็นทรัลชิดลม กับอีก 2 โครงการแถวทองหล่อ และสุขุมวิท รวมมูลค่าอีก 5,800 ล้านบาท ความเฮี้ยนของธนาคารกรุงไทย สัญลักษณ์นกวายุภักษ์ จะเวียนว่ายตายเกิดกันอย่างไร เป็นสิ่งที่ชวนให้ลุ้นระทึกกันต่อไป! [/restrict]