ธนาคารพาณิชย์ได้ทยอยประกาศเตรียมสำรองเงินสดไว้ให้ประชาชนไว้ใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนอย่างเพียงพอ เนื่องจากในช่วงเทศกาลตรุษจีนประชาชนจะใช้เงินสดจำนวนมากกว่าช่วงเวลาปกติ ทำให้แต่ละธนาคารจึงต้องมีแผนรองรับสถานการณ์ไม่ให้การใช้จ่ายเงินสดของประชาชนสะดุด รวมเป็นเงินที่สำรองไว้กว่า 1.7 แสนล้านบาท
ธนาคารกรุงไทยได้เตรียมสำรองเงินสดช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2565 เพื่อรองรับการจับจ่ายของลูกค้า ประชาชน ทั้งการใช้บริการที่สาขา และเครื่อง ATM ระหว่างวันที่ 29 มกราคม ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 จำนวน 31,280 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองในเขต กทม. จำนวน 6,390 ล้านบาท และเขตภูมิภาค จำนวน 24,890 ล้านบาท โดยสำรองสำหรับสาขาทั่วประเทศ 1,007 สาขา จำนวน 6,890 ล้านบาท และสำรองสำหรับเครื่อง ATM 9,400 เครื่อง จำนวน 24,390 ล้านบาท
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เตรียมสำรองเงินสดเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินของลูกค้าและประชาชนทั่วไปผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม และสาขาของธนาคารทั่วประเทศ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2565 ระหว่างวันที่ 27 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2565 (จำนวน 6 วัน) รวม 9,916 ล้านบาท ทั้งนี้ แบ่งเป็นเงินสดสำรองสำหรับบริการผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 6,970 ล้านบาท และช่องทางสาขาของธนาคารจำนวน 2,946 ล้านบาท โดยปัจจุบันธนาคารมีสาขาจำนวน 593 สาขา และเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 5,670 เครื่องทั่วประเทศ (ข้อมูลจำนวนเครื่อง/สาขา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564)
ธนาคารกสิกรไทยเตรียมสำรองเงินสดสำหรับให้บริการในสาขาและเครื่องเอทีเอ็ม เพื่อรองรับการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน 29 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2565 รวมทั้งสิ้น 41,800 ล้านบาท ในจำนวนนี้ แบ่งเป็นการสำรองเงินสดผ่านช่องทางสาขา จำนวน 19,800 ล้านบาท โดยเป็นเงินสำรองสำหรับสาขาในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 11,700 ล้านบาท และสาขาในเขตภูมิภาคจำนวน 8,100 ล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมี 851 สาขาทั่วประเทศ
สำหรับการสำรองเงินสดเพื่อเครื่องเอทีเอ็ม (K-ATM) ที่มีอยู่จำนวนกว่า 8,900 เครื่องทั่วประเทศ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 22,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการสำรองเพื่อบรรจุเครื่องเอทีเอ็มในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 10,000 ล้านบาท และเอทีเอ็มในเขตภูมิภาคจำนวน 12,000 ล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพ ช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2565 ทางธนาคารได้สำรองเงินสดไว้ให้บริการแก่ลูกค้าเพิ่มเติมจากภาวะปกติโดยรวมทั้งสิ้นประมาณ 40,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร และช่องทางบริการเอทีเอ็มที่มีกว่า 10,000 จุดทั่วประเทศ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเงินสดของประชาชนสำหรับใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ สำหรับการซื้อของไหว้ ของขวัญ พร้อมสำรองธนบัตรใหม่บางส่วนสำหรับใช้เป็นเงินอั่งเปามอบเป็นธรรมเนียมในเทศกาลปีใหม่จีน
นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถใช้บริการตัวแทนธนาคารที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้าน 7-Eleven, โลตัส และบริการ Bank@Post ของไปรษณีย์ไทย ซึ่งมีจุดให้บริการรวมกันกว่า 15,000 แห่งทั่วประเทศ รวมไปถึงการมอบอั่งเป่าแบบ New Normal ผ่านบริการ e-อั่งเปา จากช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ของธนาคาร เช่น บริการโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ และบริการบัวหลวงไอแบงก์กิ้ง เพื่อลดความเสี่ยงจากการสัมผัสธนบัตร เป็นทางเลือกในการส่งมอบความสุขและความสิริมงคลให้แก่กันได้อย่างมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยได้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ธนาคารได้เตรียมความพร้อมสำหรับดำเนินการเพิ่มความถี่การเติมเงินยังตู้บัวหลวงเอทีเอ็มเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ลูกค้าธนาคารมั่นใจได้ว่าจะสามารถเบิกถอนเงินสดมาใช้ช่วงเทศกาลดังกล่าวได้อย่างทั่วถึงและเพียงพอ สำหรับเลือกซื้อของขวัญให้คนในครอบครัวเพื่อความเป็นสิริมงคลในช่วงการเริ่มต้นปีใหม่ และยังเป็นช่วงคาบเกี่ยวกับเทศกาลวาเลนไทน์ รวมทั้งยังอยู่ในระหว่างมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของรัฐบาลผ่านโครงการช้อปดีมีคืน จึงเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลในปีนี้ให้คึกคัก และส่งผลไปสู่การช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมได้อีกทางหนึ่งธนาคารไทยพาณิชย์สำรองธนบัตรเทศกาลตรุษจีน ปี 2565 เพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้า จำนวน 50,000 ล้านบาท โดยเป็นการสำรองที่ใกล้เคียงกับปีก่อน แบ่งเป็นในเขตกรุงเทพมหานคร 23,000 ล้านบาท และในเขตต่างจังหวัด 27,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตู้เอทีเอ็ม 26,000 ล้านบาท และสาขา 24,000 ล้านบาท เป็นธนบัตรฉบับใหม่ประมาณ 5,000 ล้านบาท ปัจจุบันธนาคารมีสาขาทั้งสิ้น 792 สาขา และมีเครื่องเอทีเอ็มรวม 11,757 เครื่อง (ข้อมูล ณ สิ้นเดือนมกราคม 2565)