“ทรีนีตี้” สรุปผลตอบแทนลงทุน บิทคอยน์ ตั้งแต่ต้นปีถึงล่าสุด 28 ธ.ค.ให้ผลตอบแทน 275 %พร้อมเปิดตัวเลขลงทุนบิทคอยน์สะสมแล้วกว่า 65 BTC มูลค่ากว่า 54 ล้านบาท ประกาศเดินหน้า เป็นสะพานเชื่อมการลงทุนแบบเดิมไปสู่การลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบใหม่ ให้คำแนะนำแก่นักลงทุน มุ่งสร้างความเข้าใจในสินทรัพย์ดิจิทัล
อ่าน : Trinity แนะ สินทรัพย์ดิจิทัล เพิ่มตัวเลือกการลงทุน
นายชาญชัย กงทองลักษณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ มุ่งมั่นส่งมอบผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับลูกค้า ดังนั้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทได้แนะนำและพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนใหม่ๆ ให้กับลูกค้ามาโดยตลอด รวมทั้งการแนะนำให้จัดสรรเงินลงทุนโดยใช้บิทคอยน์เป็นส่วนหนึ่งของการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนประมาณ 1-5 % ของพอร์ตการลงทุนรวมที่เริ่มให้คำแนะนำตั้งแต่ช่วงต้นปี ซึ่งถือว่าเป็นคำแนะนำที่ทำให้ลูกค้าของบริษัทได้รับผลตอบแทนที่ดีจากราคาบิทคอยน์ที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากนับตั้งแต่ช่วงต้นปี จนถึงล่าสุด ณ 28 ธ.ค.ราคาบิทคอยน์ ปรับเพิ่มสูงขึ้น 275 % หรือปรับเพิ่มจาก 221,500 บาทต่อบิทคอยน์ เพิ่มขึ้นเป็น 832,499 บาทต่อบิทคอยน์
ปัจจุบันบิทคอยน์เป็นที่ยอมรับมากขึ้นและกำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนที่มองเห็นโอกาสของเทคโนโลยี และไม่จำกัดแค่การลงทุนในสินทรัพย์ดั้งเดิม ทรีนีตี้ ได้มีการติดตามและมองเห็นถึงศักยภาพมูลค่าการเติบโต ของ “บิทคอยน์” ซึ่งเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือที่เรียกว่าคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) ที่ปัจจุบันมีมูลค่าการเทรดกว่า 80% ของมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดในโลก โดยทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมการลงทุนแบบเดิม ไปสู่การลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบใหม่ และถือเป็นบริษัทหลักทรัพย์แห่งแรกที่มีการแนะนำให้ลงทุนในสินทรัพย์ชนิดใหม่นี้
นับจากทรีนีตี้แนะนำให้นักลงทุนกระจายพอร์ตมาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล มีความคืบหน้าที่ดี โดยปัจจุบันมีลูกค้าลงทุนในบิทคอยน์สะสมแล้วกว่า 65 BTC มูลค่ากว่า 54 ล้านบาท ถือว่ามีแนวโน้มที่ดี กับการเริ่มต้นแนะนำลงทุนในบิทคอยน์ โดยบริษัทมีเป้าหมายระยะยาวว่าจะมีลูกค้าเข้ามาเปิดบัญชีเพื่อลงทุน บิทคอยน์มากกว่า 1,000 บัญชี
“ลูกค้าของทรีนีตี้ที่เข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลไม่ต้องกังวลเพราะการลงทุนจะมีคำแนะนำ โดยใช้หลัก Technical Analysis แนะนำราคาที่เหมาะสมแก่การเข้าซื้อ-ขาย ในระยะกลางและระยะยาว โดยเน้นที่การซื้อสะสมแต่น้อยในลักษณะ (DCA: Dollar Cost Average) ทยอยซื้อในแต่ละเดือนในจำนวนเท่าๆ กัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุน” นายชาญชัย กล่าว
นายชาญชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า การทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมนำนักลงทุนแบบเดิมไปสู่การลงทุนในสินทรัพย์รูปแบบใหม่ๆ อย่าง บิทคอยน์ โดยให้คำแนะนำในการเปิดบัญชี และมีฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ช่วยติดตามราคา ให้คำแนะนำจังหวะในการเข้าซื้อ และขาย เมื่อถึงจังหวะที่เหมาะสม รวมทั้งติดตามความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก จะยังคงเป็นนโยบายที่บริษัทจะให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องในปี 2564 เพราะถือเป็นการลงทุน ในอนาคต ขณะเดียวกันการได้ร่วมมือกับ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด โดย บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นผู้แนะนำลูกค้าไปเปิดบัญชีและซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลกับศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด จะทำให้การเข้าสู่โลกการลงทุนแบบใหม่ทำได้ดียิ่งขึ้น
