HomeMoney2knowเงินบาท (31 ม.ค.) เปิดอ่อนค่า 32.75 บาท ผู้เล่นในตลาดระมัดระวัง เตือนผันผวน

เงินบาท (31 ม.ค.) เปิดอ่อนค่า 32.75 บาท ผู้เล่นในตลาดระมัดระวัง เตือนผันผวน

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 31 ม.ค.66 ที่ระดับ 32.75 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 32.70 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.65-32.85 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ ผู้เล่นในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างอยู่ในภาวะระมัดระวังตัวมากขึ้นและเลือกที่จะลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงลง ในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุมของบรรดาธนาคารกลางหลัก รวมถึงรับรู้ผลการดำเนินงานของบรรดาบริษัทจดทะเบียน (กว่า 100 บริษัทในดัชนี S&P500 จะมีการประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้) ส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวลดลงกว่า -1.30%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน (Chevron -2.9%, Exxon Mobil -1.8%) ตามการปรับตัวลงหนักกว่า -2% ของราคาน้ำมันดิบ WTI สู่ระดับ 78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากทางการรัสเซียยังคงอนุญาตให้บรรดาบริษัทน้ำมันสามารถส่งออกน้ำมันในปริมาณและระดับราคาเท่าไหร่ก็ได้ หลังจากที่รัสเซียเผชิญมาตรการกำหนดเพดานราคาขายน้ำมันจากบรรดาชาติฝั่งตะวันตก

- Advertisement -

ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปิดตลาด -0.17% โดยผู้เล่นในตลาดต่างลดสถานะการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงลงบ้าง ก่อนที่จะรับรู้ผลการประชุมของบรรดาธนาคารกลางหลัก ซึ่งในฝั่งของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลว่า ECB อาจขึ้นดอกเบี้ย +0.50% พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง หลังอัตราเงินเฟ้อในฝั่งยุโรปยังคงอยู่ในระดับที่สูงกว่า 9%

ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นและแกว่งตัวเหนือระดับ 102.2 จุด หลังผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะถือเงินดอลลาร์ พร้อมลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุมบรรดาธนาคารกลางหลักและผลการดำเนินงานของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ทั้งนี้ แม้ว่า ผู้เล่นในตลาดจะอยู่ในภาวะระมัดระวังตัว แต่ทองคำกลับไม่ใช้สินทรัพย์ที่ผู้เล่นในตลาดเลือกที่จะถือ เนื่องจากปัจจัยสำคัญที่ผู้เล่นในตลาดต่างรอจับตา คือ แนวโน้มนโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลางหลัก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อทิศทางราคาทองคำ

นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.) ปรับตัวลดลงสู่โซนแนวรับแถว 1,935 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่า การย่อตัวลงของราคาทองคำใกล้โซนแนวรับอาจทำให้ผู้เล่นบางส่วนเข้าไปซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวได้บ้าง ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้ในช่วงคืนที่ผ่านมา

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจฝั่งเอเชียจากรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (Manufacturing and Services PMIs) โดยในฝั่งจีน ตลาดมองว่า การทยอยผ่อนคลายมาตรการคุมการระบาด COVID จะช่วยหนุนให้ทั้งภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการของจีนฟื้นตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน สะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตอุตสาหกรรมเดือนมกราคมที่ระดับ 49.9 จุด (จาก 47 จุด ในเดือนก่อนหน้า) และดัชนี PMI ภาคการบริการที่ระดับ 51.5 จุด (จาก 41.6 จุด ในเดือนก่อนหน้า)

ส่วนในฝั่งไทย ประเมินว่าภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงอาจส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตอุตสาหกรรมของไทย สอดคล้องกับการชะลอตัวลงที่ชัดเจนของภาคการส่งออก โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมกราคมอาจลดลงสู่ระดับ 51 จุด อย่างไรก็ดี ความหวังการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน อาจช่วยหนุนให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ (Business Sentiment) ในเดือนมกราคม ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 50 จุดได้

นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งหากรายงานผลประกอบการส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด ก็อาจช่วยหนุนให้บรรยากาศในตลาดการเงินเริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นได้บ้าง

ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า แรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทนั้นมาจากทั้งการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ท่ามกลางภาวะระมัดระวังตัวของผู้เล่นในตลาด รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว นอกจากนี้ ยังคงเห็นแรงขายบอนด์ระยะสั้นและระยะยาวจากฝั่งนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง หลังการประชุม กนง. ในสัปดาห์ก่อนหน้า ทำให้ประเมินว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways แต่มีโอกาสผันผวนในฝั่งอ่อนค่าลงได้บ้าง แต่มองว่า เงินบาทจะไม่อ่อนค่าไปมาก โดยโซนแนวต้านยังคงอยู่แถว 32.90-33.00 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดต่างรอผลการประชุมของบรรดาธนาคารกลางหลัก ทำให้เราอาจยังไม่เห็นการปรับสถานะถือครองที่ชัดเจน อย่างไรก็ดี หากตลาดพลิกกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ในกรณีที่รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนออกมาดีกว่าคาด ก็อาจช่วยให้เงินดอลลาร์ไม่ได้แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ลดแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อเงินบาทได้บ้าง

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News