ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 30 พ.ค. 2566 ที่ระดับ 34.70 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.78 บาทต่อดอลลาร์ หลังบรรยากาศในตลาดการเงินเริ่มกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หนุนให้แรงขายสินทรัพย์ไทยโดยนักลงทุนต่างชาติลดลง
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย ระบุว่า แนวโน้มค่าเงินบาท ในช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านแถว 34.80 บาทต่อดอลลาร์บ้าง ตามจังหวะการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ รวมถึงโฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว
อย่างไรก็ดี เงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง หลังบรรยากาศในตลาดการเงินเริ่มกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ท่ามกลางความหวังว่าสภาคองเกรสสหรัฐฯ อาจมีมติผ่านร่างข้อตกลงเพดานหนี้ได้ภายในสัปดาห์นี้ (รอลุ้นการพิจารณาในวันพุธนี้)
เรามองว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทเริ่มแผ่วลงชัดเจน สะท้อนผ่านการพลิกกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็วของเงินบาท หลังมีจังหวะอ่อนค่าลงใกล้โซน 34.90 บาทต่อดอลลาร์ในวันก่อนหน้า และหลังจากนั้นเงินบาทก็ยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้าน 34.80 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้
ซึ่งในเชิงเทคนิคัล เราเริ่มเห็นสัญญาณการเกิด RSI Divergence รวมถึง Shooting star pattern บนกราฟค่าเงินบาทรายวัน ที่อาจชี้ว่าเงินบาทมีโอกาสกลับมาแกว่งตัว sideway หรือ sideway down (มีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นได้บ้าง)
โดยเรามองว่า โอกาสเกิดภาพดังกล่าว อาจจะอาศัยบรรยากาศในตลาดการเงินที่กลับมาเปิดรับความเสี่ยง หนุนให้แรงขายสินทรัพย์ไทยโดยนักลงทุนต่างชาติลดลง หรือ นักลงทุนต่างชาติอาจกลับมาเป็นฝั่งซื้อสุทธิสินทรัพย์ไทยได้ ซึ่งล่าสุดเราเริ่มเห็นแรงขายทั้งหุ้นและบอนด์ไทยโดยนักลงทุนต่างชาติที่ลดลงจากช่วงก่อนหน้าพอสมควร
อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ รายงานยอดการส่งออกและนำเข้าของไทย เพราะหากยอดการส่งออกหดตัวแย่กว่าคาด หรือ ดุลการค้าขาดดุลมากกว่าคาด ก็อาจเป็นปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าได้ อนึ่ง เราประเมินว่า แนวรับของเงินบาทก็อาจยังคงอยู่ในช่วง 34.40-34.50 บาทต่อดอลลาร์
ซึ่งเราเห็นผู้เล่นบางส่วน อาทิ ผู้นำเข้าทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์อยู่ หลังเงินบาทได้อ่อนค่าเร็วในช่วงที่ผ่านมา ส่วนแนวต้านของเงินบาทจะอยู่ในโซน 34.80 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งผู้เล่นบางส่วนอาจทยอยขายทำกำไรสถานะ Short THB ขณะที่โฟลว์ขายเงินดอลลาร์ของบรรดาผู้ส่งออกส่วนใหญ่ได้ทยอยขายเงินดอลลาร์ไปบ้างแล้ว
ทำให้ผู้ส่งออกอาจรอให้เห็นการกลับตัวแข็งค่าที่ชัดเจนของเงินบาทก่อน และช่วงนี้ผู้ส่งออกบางส่วนก็อาจรอทยอยขายเงินดอลลาร์ หากเงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 35.00 บาทต่อดอลลาร์ (ทำให้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อได้เร็ว หากทะลุโซนแนวต้าน 34.80 บาทต่อดอลลาร์ที่เราประเมินไว้)
ทั้งนี้ เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองสหรัฐฯ (ประเด็นขยายเพดานหนี้) และการเมืองไทย ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.55-34.80 บาท/ดอลลาร์