HomeMoney2know#ธุรกิจต้องรู้...ทางเลือกของการลงทุน ในยุคกระแสรักษ์โลกมาแรง

#ธุรกิจต้องรู้…ทางเลือกของการลงทุน ในยุคกระแสรักษ์โลกมาแรง

โดย นที ดำรงกิจการ

Head of Financial Advisory

Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย

- Advertisement -

แม้ว่าผู้คนจะกำลังตื่นเต้นกับกระแสการใช้ชีวิตในโลกเสมือน (Metaverse) ของค่าย Facebook แต่การดำรงชีวิตของมนุษย์เราก็ยังคงต้องพึ่งพาโลกใบนี้ต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะที่เราเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของโลกไปในทิศทางที่แย่ลง จากภัยธรรมชาติที่ถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้น หรือผลผลิตการเกษตรเกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นจากภาวะเอลนินโญ หรือ ลานินญา ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ลงความเห็นว่า หนึ่งในสาเหตุสำคัญคือภาวะโลกร้อนนั่นเอง

ล่าสุด ในงานประชุม The 2021 United Nations Climate Change Conference หรือ COP26 เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีผู้นำประเทศมากกว่า 100 คน (รวมถึงไทยด้วย) มาร่วมหารือและทำข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับเรื่องฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 และยังเกี่ยวเนื่องไปถึงประเด็นการลดโลกร้อน การยกระดับการเร่งดําเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศต่างๆ ตามเงื่อนไขความตกลงปารีส เนื่องจากผลการรายงานทางวิทยาศาตร์ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้น การควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

ในปี 2020 ที่ผ่านมา มีสัญญาณเชิงบวกจากผู้นําจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รวมถึง ยุโรป ซึ่งในปีนี้ประเทศที่เข้าร่วมการประชุมกว่า 177 ประเทศ ได้ออกมาประกาศเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมถึงการเพิ่มเงินทุนสนับสนุนทางการเงินด้านการดำเนินงานในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยได้ข้อสรุป เช่น

  1. Glasgow Financial Alliance For Net Zero –เป็นการรวมตัวการของภาคเอกชน 450 บริษัท จาก 45 ประเทศทั่วโลก พร้อมที่จะสนับสนุนเงินทุนอีกราว 130 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อก้าวไปสู่ Net Zero
  2. ถ่านหินสู่Clean Tech – สนับสนุนการเปลี่ยนถ่ายจากพลังงานถ่านหิน ไปสู่พลังงานสะอาดครั้งใหญ่ ร่วมมือกันให้เกิดขึ้นภายในปี 2030 สำหรับประเทศเศรษฐกิจหลัก และปี 2040 สำหรับประเทศอื่นๆ
  3. ต้นไม้ต้องมี– กว่า 100 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมป่า 90% ของโลก ลงนามว่าจะฟื้นฟูป่า ลดการตัดไม้ และอนุรักษ์ผืนดิน เพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นตัวช่วยสำคัญในการดูดซับก๊าซเรือนกระจก
  4. ลดก๊าซมีเทน– หลายประเทศเริ่มให้ความสำคัญในการลดก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก โดยมี 105 ประเทศร่วมลงนาม และตั้งใจที่จะลดการปล่อยก๊าซมีเทนราว 30% ภายในปี 2030

จะเห็นได้ว่าความสนใจในการลดโลกร้อนนั้นเป็นกระแสที่กำลังมาแรงทั้งในภาคประชาชน และภาคธุรกิจ มีการอัดฉีดงบประมาณมหาศาลทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งมุ่งหวังที่จะรักษ์โลกนี้ให้น่าอยู่ดังเดิม ดังนั้นในแง่ของผู้บริโภคก็ควรที่จะสนับสนุนหรือส่งเสริมบริษัทที่มีแนวคิดเรื่องรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน

ในด้านของนักลงทุน จากแนวโน้มกระแสรักษ์โลกที่กำลังมาแรงนี้ มีทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในบริษัทที่มีบทบาทในการลดหรือควบคุมอุณหภูมิโลก อย่าง กองทุน K-CLIMATE  ที่คัดสรรและลงทุนในบริษัทที่มีนโยบายพันธะสัญญาว่าจะลดก๊าซเรือนกระจกหรือบริษัทที่มีบทบาทในการลดหรือควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง โดยไม่ได้เลือกบริษัทกลุ่มพลังงานทางเลือกแบบเฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่นบริษัทที่มีนโยบายในการลดก๊าซเรือนกระจก เช่น CROWN HOLDINGS (ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์เหล็กและอะลูมิเนียม) หรือ NEXTERA ENERGY (โรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์ ซึ่งมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ 7 แห่ง ในสหรัฐฯ) เป็นต้น

โดยสรุปแล้ว ในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมถึงก๊าซมีเทนในปริมาณมากเรื่อยมาจนปัจจุบัน ทำให้การเสื่อมโทรมของสภาพแวดล้อมเกิดขึ้น การปกป้องสิ่งแวดล้อมจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากสิ่งแวดล้อมถูกทำลาย ปัญหาอย่าง ธรรมชาติสูญหาย น้ำท่วม ดินถล่ม อากาศแปรปวน ก็จะเกิดขึ้นและอาจรุนแรงกว่าที่เคยเป็น ดังนั้น หากต้องการให้โลกและพอร์ตการลงทุนยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน กองทุน K-CLIMATE จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News