กรมสรรพากร งัดมาตรการภาษีหนุนผู้ประกอบการ SMEs จ้างลูกจ้างต่อเนื่องโดย “หักรายจ่ายค่าจ้าง สูง 3 เท่า” ในช่วง 3 เดือน เริ่ม เม.ย.- ก.ค. 63 เปิดลงทะเบียนใช้สิทธิ์ได้ที่ www.rd.go.th นับตั้งแต่วันที่ระบบเปิดภายใน 150 วัน
นางสมหมาย ศิริอุดมเศรษฐ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี (กลุ่มธุรกิจพลังงาน) ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน หรืออาจเลิกจ้างงาน กรมสรรพากร จึงได้ออกมาตรการภาษีสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ที่ยังคงการจ้างงานลูกจ้างไว้และจ่ายค่าจ้าง สามารถ หักรายจ่ายค่าจ้าง ในช่วงเดือนเมษายน-กรกฎาคม 2563 ในการคำนวณภาษี ได้ 3 เท่า ทั้งนี้เพื่อให้ลูกจ้างของผู้ประกอบการ SMEs ยังมีงานทำต่อไป
โดยต้องเข้าหลักเกณฑ์ดังนี้
1. เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีรายได้ครบ 12 เดือนในรอบระยะเวลาบัญชีล่าสุดไม่เกิน 500 ล้านบาท และมีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน (สำหรับรอบบัญชีสิ้นสุดก่อนหรือในวันที่ 30 กันยายน 2562)
2. คงการจ้างงานของลูกจ้างที่ประกันตน และมีค่าจ้างไม่เกิน 15,000 บาท/คน/เดือน
3. จำนวนลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563
ต้องไม่น้อยกว่าจำนวนลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนทั้งหมด ณ วันสุดท้ายของเดือนมีนาคม 2563
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ให้ลงทะเบียนใช้สิทธิได้ที่ www.rd.go.th นับตั้งแต่วันที่ระบบเปิดให้ใช้งานจนถึงภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีปีที่ใช้สิทธิ
“มาตรการส่งเสริมเสถียรภาพของการจ้างงานดังกล่าว เป็นหนึ่งในมาตรการภาษี “จูงใจ” ที่กรมสรรพากรส่งเสริมให้บุคคลหรือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก โควิด–19 ได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในหลายด้าน เช่น การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่ผู้นำเข้ายาเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา โควิด–19
การเพิ่มวงเงินค่าลดหย่อนค่าเบี้ยประกันสุขภาพสำหรับบุคคลธรรมดาตามที่จ่ายจริงเพิ่มขึ้นจากไม่เกิน 15,000 บาท เป็นไม่เกิน 25,000 บาท เป็นต้น” นางสมหมาย กล่าว