สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (21 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสซึ่งจะช่วยหนุนความต้องการใช้น้ำมัน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ปรับตัวดีขึ้นในสหรัฐ ยูโรโซน และ สหราชอาณาจักร
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.65% ปิดที่ 77.87 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 5.5% ในรอบสัปดาห์นี้
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.69% ปิดที่ 81.66 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 5.4% ในรอบสัปดาห์นี้
เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 53.5 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือน จากระดับ 52.3 ในเดือนมี.ค. โดยดัชนี PMI อยู่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐมีการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจปรับตัวขึ้นเช่นกัน เช่นเดียวกับดัชนี PMI ของสหภาพยุโรป (อียู) อยู่ที่ 54.4 ในเดือนเม.ย. ทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 เดือน เพิ่มขึ้นจากระดับ 53.7 ในเดือนมี.ค. บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคธุรกิจของอียูอยู่ในภาวะขยายตัว