HomeMoney2knowจับตาประธานเฟด ส่งสัญญาณดอกเบี้ย ที่แจ็คสันโฮล คืนนี้

จับตาประธานเฟด ส่งสัญญาณดอกเบี้ย ที่แจ็คสันโฮล คืนนี้

คืนนี้ตลาดการเงินทั่วโลกติดตาม สุนทรพจน์ของ “พาวเวล” ในการประชุมที่แจ็คสันโฮล ว่าจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยต่อเนื่องหรือไม่  หลัง “ทรัมป์” กดดันหนักพร้อมเรียกร้องให้รื้อมาตรการ QE

การประชุมที่เมือง “แจ็คสันโฮล” ในรัฐไวโอมิง ของสหรัฐ  เป็นการประชุมสัมนาทางเศรษฐกิจที่จัดขึ้นทุกๆ ปี โดยธนาคารกลางสหรัฐ เป็นการร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อวางแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนั้น โดยจะเชิญบรรดาผู้ว่าการธนาคารกลางจากทั่วโลกเข้าร่วม หรือบางปีอาจมีการเชิญรัฐมนตรีคลังเข้าร่วมด้วย

เวทีนี้เคยเป็นที่พูดคุยหารือปัญหาเศรษฐกิจสำคัญของโลกมาหลายตต่อครั้ง  อย่างวิกฤตต้มยำกุ้ง  วิกฤตพักชำระหนี้ของรัฐเซีย  วิกฤตเลห์แมน บราเธอร์ส  หรืออย่างครั้งล่าสุดกับวิกฤตค่าเงินลีราของตุรกี  ล้วนผ่านเวทีถกปัญหาที่นี่มาแล้วทั้งสิ้น

การประชุมที่แจ็คสันโฮล รอบนี้สปอร์ตไลท์ส่องไปที่การกล่าวสุนทรพจน์ของ “นายเจอโรม พาวเวล” ประธานธนาคารกลางสหรัฐในการประชุม  เพื่อหาสัญญาณจากคำพูดของพาวเวลว่าจะมีการส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงต่อเนื่องหรือไม่  หลังจากการโดนกดดันจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

- Advertisement -

ทรัมป์ กดดันหนักให้เฟดลดดอกเบี้ย รื้อ QE

โดย “โดนัลด์ ทรัมป์” ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์หลายครั้ง เรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1% และรื้อฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

โดยเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ทรัมป์ทวิตข้อความระบุว่า”เศรษฐกิจของสหรัฐมีความแข็งแกร่งอย่างมาก แม้ว่านายเจอโรม พาวเวล และเฟดจะขาดวิสัยทัศน์อย่างน่าวิตก ขณะที่พรรคเดโมแครตกำลังพยายามทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่เพื่อหวังผลในการเลือกตั้งปีหน้า นี่เป็นการเห็นแก่ตัวอย่างมาก ส่วนค่าเงินดอลลาร์ของเราก็มีความแข็งแกร่งมากจนส่งผลกระทบต่อภูมิภาคอื่นของโลก”

ขณะที่ “นายนารายานา โคเชอร์ลาโคตา” อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินเนอาโพลิส แสดงความเห็นว่า เห็นด้วยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  ว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอยู่ในระดับที่สูงเกินไป  โดยระบุว่าเฟดคุมเข้มมากเกินไป  ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ และถ้าเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และแคนซัส ซิตี้ ย้ำเฟดไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ย

ด้าน “นายแพทริก ฮาร์เกอร์” ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย  ออกมาคัดค้านการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่  โดยระบุว่า นโยบายการเงินของเฟดปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสม  หลังจากลดดอกเบี้ยลงเมื่อครั้งที่แล้ว  และเฟดควรรอสถานการณ์ไปอีกระยะหนึ่งก่อนที่เฟดจะปรับลดออัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง

ส่วน “นางเอสเธอร์ จอร์ส” ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ ยังเน้นย้ำจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่การประชุมเมื่อ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา  โดยนางเอสเธอร์ระบุว่า  เฟดยังไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มมาตรการผ่อนคลายทางการเงินในขณะนี้  แต่พร้อมจะสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนโยบายดอกเบี้ย  ก็ต่อเมื่อมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าภาวะ

โดยการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ FOMC ของเฟด  เมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมามีมติ 8 ต่อ 2 เสียง ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25%  โดย 2 เสียงให้คงดอกเบี้ยคือ นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน และนายเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟด สาขาแคนซัส

แม้การเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.25%  แต่ไม่ได้มีการส่งสัญญาณออกมาว่าจะมีการดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่องหรือไม่  จึงทำให้นักลงทุนผิดหวังกับท่าทีดังกล่าว  เนื่องจากคาดการณ์ว่าเฟดจะส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง

Inverted Yield Curve 3 ครั้งใน 2 สัปดาห์

ขณะที่ FedWatch ของ CME Group ระบุ นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 91.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมของเฟดในวันที่ 17-18 ก.ย. แต่เป็นตัวเลขที่ลดจาก 98% ที่สำรวจหลังมีการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดเดือนก.ค.  สะท้อนตลาดไม่มั่นใจ

ในขณะที่เมื่อวานนี้ (22 ส.ค.) ตลาดตราสารหนี้สหรัฐ จากการเกิด Inverted Yield Curve ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ  ซึ่งเป็นการเกิดขึ้นครั้งที่ 3 ในรอบ 2 สัปดาห์ จากความกังวลของนักลงทุนต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเฟดว่าอาจไม่ทันการ

ดังนั้นทั่วโลกจึงจับตาสุนทรพจน์ของ “เจอโรม พาวเวล” ในครั้งนี้เป็นพิเศษ  ว่าจะส่งสัญญาณใดๆ ออกมาเพื่อเป็นการบ่งชี้การดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่องหรือไม่ 

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News