ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 22 มีนาคม 2566 ที่ระดับ 34.43 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง” จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 34.32 บาทต่อดอลลาร์ จับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำและการปรับดอกเบี้ยของเฟด
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทย ระบุว่า แนวโน้มค่าเงินบาท จะเห็นได้ว่า ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ แม้ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงก็ตาม
ปัจจัยสำคัญ คือ โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะปรับฐาน หลังราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ตามภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังถูกกดดันจากแรงขายหุ้นไทยต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ (แรงขายเริ่มชะลอลงจากช่วงก่อนหน้า)
ส่วนในวันนี้ เรามองว่า ค่าเงินบาทอาจแกว่งตัว sideways ในช่วงก่อนที่ตลาดจะรับรู้ผลการประชุมเฟด ทว่า เงินบาทก็มีโอกาสอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้านแถว 34.50 บาทต่อดอลลาร์ได้ไม่ยาก หากราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ซึ่งต้องจับตาการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
โดยเรามองว่า โซนราคาทองคำ 1,930-1,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจเป็นแนวรับที่ผู้เล่นในตลาดรอทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว ทั้งนี้ เงินบาทก็ยังพอมีแรงหนุนฝั่งแข็งค่าอยู่บ้าง (แนวรับอยู่ในโซน 34.30 บาทต่อดอลลาร์)
โดยบรรยากาศในตลาดการเงินที่กลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) อาจทำให้เงินดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหว sideways นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติก็มีโอกาสทยอยกลับเข้ามาซื้อสุทธิสินทรัพย์ไทย โดยเฉพาะหุ้นได้บ้าง แต่คงไม่สามารถคาดหวังแรงซื้อที่มากได้ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติอาจรอจับตาผลการประชุมเฟดไปก่อน
ทั้งนี้ ควรระมัดระวังความผันผวนในตลาดการเงิน ในช่วงที่ผู้เล่นในตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมเฟด โดยเรามองว่า มีโอกาสที่เงินดอลลาร์อาจพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น พร้อมกับการปรับตัวลดลงต่อของราคาทองคำ
หากเฟดส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง จนแตะระดับไม่น้อยกว่า 5.50% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาด และเฟดย้ำจุดยืนไม่เร่งรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จนกว่าจะสามารถคุมปัญหาเงินเฟ้อสูงได้สำเร็จ โดยในกรณีนี้ เงินบาทมีโอกาสผันผวนอ่อนค่าต่อทดสอบโซนแนวต้าน 34.70-34.80 บาทต่อดอลลาร์ได้
แต่หากผลการประชุมเฟดสะท้อนว่า เฟดเริ่มกังวลปัญหาในระบบธนาคารมากขึ้นจากการประชุมครั้งก่อนๆ ทำให้เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง และคาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก (หรืออาจมีการปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในช่วงปี 2024-2025 ลงเล็กน้อยได้)
เราประเมินว่า แม้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยตามคาด แต่ท่าทีของเฟดที่เปลี่ยนไป จะกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงได้ และราคาทองคำก็มีโอกาสรีบาวด์ขึ้นได้บ้าง ทำให้ในกรณีนี้ เงินบาทอาจแข็งค่าทดสอบโซนแนวรับแถว 34.30 บาทต่อดอลลาร์ได้
และในกรณีที่ เฟด “ไม่ขึ้น” ดอกเบี้ยตามคาด หรือ เซอร์ไพรส์ตลาด ด้วยการ “ลดดอกเบี้ยลง” เราคาดว่า เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าใกล้โซน 34 บาทต่อดอลลาร์ได้ หากราคาทองคำพลิกกลับมาปรับตัวขึ้นใกล้โซน 1,980-2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง
แต่ทั้งนี้ ต้องรอจับตาว่า ตลาดจะตีความว่า การปรับลดดอกเบี้ยของเฟด คือ การส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังเผชิญปัญหาที่น่ากังวลหรือไม่ ถ้าตลาดมองว่า การลดดอกเบี้ย อาจสะท้อนปัญหาที่น่ากังวล เราคาดว่า ตลาดอาจกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ซึ่งจะลดทอนการแข็งค่าของเงินบาทได้บ้าง
ในช่วงนี้ เรามองว่า ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง (ค่าเงินบาทผันผวนในระดับ 9%-10% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาที่ระดับ 5% เป็นอย่างมาก)
ทำให้เรามองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.35-34.55 บาท/ดอลลาร์