HomeMoney2knowFunds3 ข้อสำคัญต้องรู้ ก่อนลงทุน SSF และ RMF เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปีนี้

3 ข้อสำคัญต้องรู้ ก่อนลงทุน SSF และ RMF เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปีนี้

โดย สวภพ ยนต์ศรี AFPT™ Senior Wealth Manager บลจ.ทิสโก้

เข้าสู่ช่วงปลายปีแบบนี้ แน่นอนว่าก็ถึงเทศกาลลงทุนในกองทุนเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ซึ่งตั้งแต่ต้นปีหากใครยังไม่ได้ลงทุนเลย นี่ก็คือช่วงสุดท้ายที่จะตัดสินใจว่า จะลงทุนในกองทุนไหน และลงทุนเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ โดยในปีนี้ถึงแม้เงื่อนไขในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่านการลงทุนในกองทุนรวม SSF และ RMF จะไม่ได้ต่างจากเดิม ทั้งในแง่ของจำนวนเงินและเวลาในการถือครอง แต่ยังมี 3 สิ่งสำคัญที่ต่างไปจากเดิม และเป็นข้อสำคัญที่ควรรู้ ก่อนจะตัดสินใจลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษี SSF และ RMF ในปีนี้

1.มาตรการลดหย่อยภาษีอื่น ๆ ในปีนี้

- Advertisement -

            อีกหนึ่งปัจจัยที่คนส่วนใหญ่ใช้ในการตัดสินใจว่า จะลงทุนลดหย่อนภาษีผ่านกองทุนรวม SSF และ RMF เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ นอกจากรายได้ในแต่ละปีที่มากหรือน้อยไม่เท่ากันแล้ว ก็คือสิทธิ์ที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีในข้ออื่น ๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้กัน โดยในปีนี้มาตรการที่ภาครัฐออกมาให้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีไปแล้วคือ “โครงการช้อปดีมีคืน” ที่สามารถซื้อสินค้าเพื่อนำมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งมาตรการดังกล่าวเปิดโอกาสให้ใช้สิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2565 โดยต่างจากปีก่อน ๆ ที่มาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการให้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีด้วยการซื้อสินค้ามักจะออกมาในช่วงปลายปี ซึ่งหากว่าใครได้ใช้สิทธิ์ในโครงการ “ช้อปดีมีคืน” ไปแล้ว สิ่งที่ควรทำคือการเตรียมใบกำกับภาษี เพื่อนำมาใช้ยื่นลดหย่อนในช่วงต้นปีหน้า นอกจากนี้ ยังมีมาตรการใหม่คือการลงทุนธุรกิจในวิสาหกิจเพื่อสังคมตามจำนวนเงินที่จ่ายจริง สูงสุดเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท

และอีกหนึ่งสิ่งที่เปลี่ยนไปในปีนี้ คือเงินสมทบประกันสังคมที่จากเดิมสูงสุด 9,000 บาท จะเหลือสูงสุด 6,300 บาท ตามที่กระทรวงแรงงานได้ออกมาตรการลดเงินสมทบประกันสังคม เพื่อช่วยเหลือนายจ้าง ผู้ประกอบการ และผู้ประกันตน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับความเดือดร้อน จากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อันเนื่องมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของค่าครองชีพ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19

               ซึ่งหากใครที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีผ่านโครงการ “ช้อปดีมีคืน” ประกอบกับเงินสมทบประกันสังคมที่ลดลง การลงทุนในกองทุน SSF และ RMF เพิ่มเติม หากว่ายังไม่เกินสิทธิ์ที่สามารถใช้ได้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้นได้

2.กองทุน SSF และ RMF ที่ลงทุนในต่างประเทศส่วนใหญ่มีผลตอบแทนติดลบในรอบ 1 ปีทีผ่านมา

            จากปัจจัยหลาย ๆ ด้านที่เกิดขึ้นทั้งสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสำคัญ ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะ Fed ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเกิดความผันผวน และส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนติดลบในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา

               ดังนั้น ผลตอบแทนของกองทุน SSF และ RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นต่างประเทศย้อนหลัง 1 ปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะให้ผลตอบแทนเป็นลบทั้งสิ้น ซึ่งข้อมูลจาก Morningstar Thailand ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา พบว่า กองทุน SSF จำนวนทั้งสิ้น 180 กองทุนที่เปิดมาเกินกว่า 1 ปี มีจำนวนเพียง 32 กองทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก ซึ่งทั้งหมดเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นไทย หรือเป็นกองทุนผสมที่มีสัดส่วนลงทุนในหุ้นไม่มากนัก ส่วนกองทุน RMF จากจำนวน 277 กองทุนที่เปิดมาเกินกว่า 1 ปี มีเพียง 50 กองทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก โดยทั้งหมดเป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ หุ้นไทย หรือเป็นกองทุนผสมที่มีสัดส่วนลงทุนในหุ้นไม่มากนักเช่นเดียวกัน

               ดังนั้น ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นในระยะ 1 ปีที่ผ่านมา จึงสะท้อนว่า ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นในกองทุน SSF และ RMF ที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศที่เกิดขึ้น เป็นไปตามสภาวะตลาดโลก ทั้งนี้ ในปีนี้หากใครยังสนใจลงทุนในกองทุน SSF และ RMF ที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ การพิจารณาถัวเฉลี่ยลงทุนในกองทุนเดิม ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

3.ในปีนี้ต้องแจ้งความประสงค์การใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีกับ บลจ. ที่ซื้อกองทุน

            และมาถึงข้อควรรู้ที่สำคัญที่สุดของการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี ผ่านการลงทุนในกองทุน SSF และ RMF ในปีนี้ คือการแจ้งความประสงค์การใช้สิทธิ์ยกเว้นภาษีเงินได้จากการลงทุนในกองทุนรวม เพื่อการลดหหย่อนภาษี ผ่านทางเว็บไซต์หรือช่องทางของ บลจ. ต่าง ๆ เพื่อยินยอมให้ บลจ. นำส่งข้อมูลให้กรมสรรพากร โดยการแจ้งความประสงค์ทำเพียงครั้งเดียว และต้องแจ้งกับทุก บลจ. ที่ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีในปีนี้ ซึ่งหากไม่มีการแจ้งความประสงค์ หรือ แจ้งว่าไม่ประสงค์จะใช้สิทธิ์ จะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการซื้อกองทุน SSF และ RMF ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป

               โดยหลังจากแจ้งความประสงค์แล้ว ในการยื่นภาษีกับกรมสรรพากรก็จะไม่ต้องยื่นเอกสารยืนยันการซื้อเหมือนปีที่ผ่าน ๆ มาอีก

และนี่ก็คือ 3 ข้อสำคัญที่ต้องรู้ก่อนลงทุน SSF และ RMF เพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีในปี 2565 นี้ ส่วนในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไป ต้องอย่าลืมว่าการเริ่มวางแผนลงทุนในกองทุน SSF และ RMF ตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยเท่า ๆ กันทุกเดือน ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการลงทุนที่ดีที่สุด

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News