HomeMoney2knowส่องกำไรแบงก์ใหญ่ของไทย โค้งแรกปี 66 อู้ฟู่กันแค่ไหน?

ส่องกำไรแบงก์ใหญ่ของไทย โค้งแรกปี 66 อู้ฟู่กันแค่ไหน?

ธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 กันแล้ว ซึ่งต่างมีผลกำไร หลังจากสถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายลงแล้ว และเศรษฐกิจไทยในเวลานี้ได้ทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อผลดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร

เริ่มต้นด้วย “ธนาคารกสิกรไทย” แจ้งว่า ในไตรมาส 1 ปี 2566 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 10,741 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 4.19% โดยกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและภาษีเงินได้มีจำนวน 26,781 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้จากการดำเนินงานและการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอ

ธนาคารกสิกรไทย ยังคงตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ตามหลักความระมัดระวัง แม้ว่าจะลดลงจากไตรมาส 4 ปี 2565 แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีจำนวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากธนาคารมีการบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์เชิงรุกที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่อาจจะส่งผลต่อลูกค้าบางกลุ่มที่ยังมีความเปราะบาง

- Advertisement -

นอกจากนี้ ในไตรมาส 1 ปี 2566 ธนาคารพบว่ามีลูกค้ารายใหญ่รายหนึ่งที่คุณภาพหนี้มีสัญญาณความเสื่อมถอย โดยธนาคารได้มีสำรองสำหรับหนี้ส่วนนี้ไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ธนาคารอาจพิจารณาความเหมาะสมในการกันสำรองเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด

รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 9.84% สอดคล้องกับภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและการเติบโตของสินเชื่อใหม่ตามยุทธศาสตร์ของธนาคาร โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ อยู่ที่ระดับ 3.46% แม้ว่าจะมีต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นจากอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นอัตราปกติในอัตรา 0.46% รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 32.00% หลัก ๆ จากมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนเพิ่มขึ้นตามภาวะตลาด ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้น 13.82% สอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มตามปริมาณธุรกิจ รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ อยู่ที่ระดับ 42.50% ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ธนาคารกรุงศรีอยุธยา” สรุปผลประกอบการและฐานะการเงินที่สำคัญสำหรับไตรมาสแรกของปี 2566 กำไรสุทธิ จำนวน 8,676 ล้านบาท ในไตรมาสแรกของปี 2566 เพิ่มขึ้นจำนวน 1,258 ล้านบาท หรือ 17.0% จากไตรมาสแรกของปี 2565 โดยได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รวมถึงภาระการตั้งสำรองที่ลดลง

ด้านเงินให้สินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 0.3% หรือจำนวน 5,145 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2565 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและสินเชื่อเพื่อรายย่อย สุทธิกับการลดลงของสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่ , เงินรับฝาก เพิ่มขึ้น 3.0% หรือจำนวน 53,964 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2565 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.35% เทียบกับ 3.28% ในไตรมาสแรกของปี 2565 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย เพิ่มขึ้น 6.1% หรือ 506 ล้านบาท จากไตรมาสแรกของปี 2565

อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ปรับสู่ 44.4% เพิ่มขึ้นจาก 42.7% ในไตรมาสแรกของปี 2565 สะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เร่งตัวขึ้นและจากฐานที่ต่ำในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน , อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) ปรับตัวดีขึ้นที่ 2.26% จาก 2.32% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 จากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจและการบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบระมัดระวัง ส่งผลให้สัดส่วนการตั้งสำรองต่อสินเชื่อรวมปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับที่ 116 เบสิสพอยท์ ในไตรมาสแรกของปี 2566 , อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 167.1% ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคาร) อยู่ที่ 17.95% เทียบกับ 17.97% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565

“ธนาคารกรุงเทพ” รายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2566 จำนวน 10,129 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ปี 2565 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสก่อน จากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นตามการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย สุทธิกับค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

เงินรับฝากและการปรับอัตราเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าสู่ระดับเดิมที่ 0.46% ต่อปี และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ 2.84%  สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงินซึ่งเป็นไปตามสภาวะตลาด และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงเป็น 46.8%  ธนาคารตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 8,474 ล้านบาท โดยพิจารณาถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า

“ธนาคารกรุงไทย” ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2566  เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2565 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร เท่ากับ 10,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.6% จากในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 24.0% จากการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ เพื่อสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน รายได้รวมจากการดำเนินงานขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง 18.8% จากพอร์ตสินเชื่อที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพมากขึ้น

รวมถึงการขยายตัวของรายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิและรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ ประกอบกับการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในองค์รวมอย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้ ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานขยายตัวจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการให้บริการแก่ลูกค้า ทำให้ Cost to Income Ratio เท่ากับ 38.70% ลดลงจาก 41.25% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลตามฤดูกาลที่ Cost to Income Ratio ในไตรมาสอื่นจะสูงขึ้นกว่าไตรมาส 1

ทั้งนี้ ธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้น 48.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยพิจารณาถึงการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน รวมทั้งเงินเฟ้อซึ่งแม้ว่าจะเริ่มลดลงแต่ยังคงอยู่ระดับที่สูง และยังคงรักษา Coverage Ratio ในระดับสูงที่ 183.2% เทียบกับ 179.7% เมื่อสิ้นปี 2565 พร้อมทั้งบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างระมัดระวัง โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม (NPLs Ratio-Gross) 3.22% ลดลงจากสิ้นปี 2565

“บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)” มีกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ของปี 2566 จำนวน 10,995 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จากปีก่อน ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองมีจำนวน 24,143 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.0% ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวที่แข็งแกร่งของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ ในไตรมาส 1 ของปี 2566 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 28,942 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.0% เป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ในขณะที่สินเชื่อโดยรวมขยายตัว 3.1% จากการเติบโตสินเชื่ออย่างมีคุณภาพของธนาคารและการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลบนแพลตฟอร์มดิจิทัล

ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ มีจำนวน 10,831 ล้านบาท ลดลง 6.6% เป็นผลจากการลดลงของรายได้ที่เกี่ยวข้องกับการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่านธนาคารและการชะลอตัวของธุรกิจการบริหารความมั่งคั่ง ในขณะที่รายได้จากธุรกรรมทางการเงินและรายได้ที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งรายได้จากการลงทุนและการค้ามีจำนวน 1,127 ล้านบาท ลดลง 17.5% แต่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว

ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีจำนวน 16,757 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% เป็นผลจากกิจกรรมธุรกิจที่เพิ่มขึ้นโดยยังมีการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ในไตรมาส 1 ของปีนี้อยู่ที่ 41.0%

บริษัทฯ ได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 9,927 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.5% เพื่อเป็นสำรองส่วนเพิ่มสำหรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่รายหนึ่ง ในขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับสูงที่ 163.8% โดยคุณภาพของสินเชื่อโดยรวมปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 3.32% ปรับตัวลดลงจาก 3.34% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 และเงินกองทุนรวมตามกฎหมายของบริษัทฯ ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 18.6%

“ธนาคารทหารไทยธนชาต” หรือ ทีเอ็มบีธนชาต (ทีทีบี) แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อน และ 34% จากไตรมาส 1 ปี 2565 ด้านอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพหรือหนี้เสียทรงตัวในระดับต่ำที่ 2.69% ขณะที่อัตราส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 140% สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามเป้าหมายในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรายได้ การบริหารค่าใช้จ่าย และการดูแลคุณภาพสินทรัพย์

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News