สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันศุกร์ (17 มี.ค.) ร่วงลงรุนแรงที่สุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และรุนแรงที่สุดในปีนี้ เนื่องจากวิกฤตในภาคธนาคารและความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และวิกฤตที่เกิดขึ้นกับธนาคารในสหรัฐและยุโรปทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ได้ฉุดราคาน้ำมันลง
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 2.36% ปิดที่ 66.74 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 13% ในรอบสัปดาห์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 2.32% ปิดที่ 72.97 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 11.9% ในรอบสัปดาห์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI และน้ำมันดิบเบรนท์ต่างก็ปิดตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า สัญญาน้ำมันดิบเผชิญแรงเทขาย เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหลังจากที่เกิดวิกฤตขึ้นในภาคธนาคาร โดยธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ของสหรัฐประสบกับภาวะล้มละลาย และธนาคารเครดิต สวิสก็ประสบปัญหาด้านสภาพคล่อง บรรดานักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ราคาน้ำมันถูกกดดัน เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า หากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน