สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (18 พ.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า
ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 22,000 ราย สู่ระดับ 242,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 254,000 ราย บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน แต่ก็อาจเป็นแรงผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 97 เซนต์ หรือ 1.33% ปิดที่ 71.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.10 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 75.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนมองว่าข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่ง อาจจะผลักดันให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย.นี้ โดยนักลงทุนให้น้ำหนัก 36.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% การคาดการณ์ดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ขณะที่แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ตลาดกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน