ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.62 บาท/ดอลลาร์ ‘อ่อนค่าลง’ จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ 34.67 บาท/ดอลลาร์ ‘กรุงไทย’ ประเมินกรอบวันนี้ที่ 34.50-34.80 บาท/ดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนอ่อนค่าลงทดสอบโซน 34.80 บาทต่อดอลลาร์ ตามการรีบาวด์แข็งค่าขึ้นและโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำ หลังตลาดรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
อย่างไรก็ดี เงินบาทอาจไม่ได้อ่อนค่าลงต่อเนื่องไปไกลมากนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รับรู้แนวโน้มการคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดในครั้งนี้ เพื่อเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อในรอบถัดๆ ไป (Skip Hike) ไปพอสมควร
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดอาจกลับมาโฟกัสที่ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยเราประเมินว่า หาก ECB เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยตามคาด พร้อมส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ก็อาจช่วยหนุนให้เงินยูโร (EUR) แข็งค่าขึ้นต่อได้บ้าง กดดันให้เงินดอลลาร์อาจยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นชัดเจนได้
อนึ่ง แม้ว่าเงินดอลลาร์จะไม่ได้แข็งค่าขึ้นชัดเจน แต่เงินบาทก็ยังมีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าอยู่บ้าง ผ่านโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว รวมถึงแรงกดดันจากเงินหยวนจีนที่มีโอกาสอ่อนค่าได้บ้าง หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนล่าสุดออกมาแย่กว่าคาดและทำให้ธนาคารกลางจีน (PBOC) เดินหน้าลดดอกเบี้ยลง
ทั้งนี้ เราคงมองว่า เงินบาทยังมีโซนแนวต้านในช่วง 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนที่บรรดาผู้ส่งออกต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์อยู่ ขณะเดียวกัน ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติก็เริ่มกลับมาเป็นฝั่งซื้อสุทธิสินทรัพย์ไทยมากขึ้น
ทำให้เรายังคงมองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทจะเป็นไปอย่างจำกัด และเงินบาทมีโอกาสทยอยแข็งค่าขึ้นหรือแกว่งตัวลง (Sideway down) โดยมีโซนแนวรับแรกแถว 34.50-34.60 บาทต่อดอลลาร์
เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังเผชิญความไม่แน่นอนของการเมืองไทย รวมถึงทิศทางนโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลางหลัก ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.60-34.80 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุม ECB และอาจอยู่ในกรอบ 34.50-34.75 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้ผลการประชุม ECB