HomeMoney2knowTDRI คาดจีดีพีไทย66 โต 3.5% เศรษฐกิจครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก

TDRI คาดจีดีพีไทย66 โต 3.5% เศรษฐกิจครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก

ดร. กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการ โครงการ TDRI Economic Intelligence Service (EIS) สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังปี 66 จะขยายตัวมากกว่ากว่าในครึ่งปีแรก จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การส่งออกไปตลาดจีนและกำลังซื้อในประเทศ ส่วนเงินเฟ้อจะชะลอตัวน้อยกว่า 2% เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลง แต่ยังมีแรงกดดันเงินเฟ้อจากอีกหลายปัจจัย เช่น ต้นทุนของผู้ผลิตที่ถูกส่งต่อไปยังผู้บริโภคจากการฟื้นตัวด้านอุปสงค์ ค่าไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้น และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และคาดดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2.25-2.5% ในสิ้นปี 66 โดยประเมินเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี ทั้งปี 66 จะขยายตัวได้ 3.5%

 ทั้งนี้เศรษฐกิจไทยได้รับอานิสงส์จากรายรับในภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้เศรษฐกิจเติบโต จากข้อมูล ธปท. คาดว่าในปี 66 จะมีนักท่องเที่ยว 29 ล้านคน และเพิ่มขึ้นเป็น 35.5 ล้านคนในปี 67 ในขณะที่มูลค่าการส่งออกจะลดลงจากปีที่แล้ว แม้การส่งออกไทยอาจได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจจีน แต่ยังมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจของตลาดส่งออกหลักที่ถดถอย

 สำหรับการบริโภคภาคครัวเรือนได้ฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยว ทำให้การว่างงานลดลง ก่อให้เกิดการสร้างรายได้จากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมโรงแรมและภัตตาคาร การก่อสร้าง การค้าขายและการผลิต และคาดว่าการจ้างงานจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการผลิตที่สูง การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามหนี้ครัวเรือนที่สูงนับตั้งแต่โควิดถึงเกือบ 90% ของจีดีพี อาจเป็นปัจจัยจำกัดการบริโภค  และสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังไม่มีเสถียรภาพ อาจส่งผลให้งบประมาณปี 67 ล่าช้า ทำให้การใช้จ่ายของภาครัฐในปี 66 จะไม่เพิ่มขึ้นจากปี 65 มากนัก

- Advertisement -

นอกจากนี้ยังประเมินเศรษฐกิจโลกยังคงเจอกับความไม่แน่นอนหลายด้าน ทั้งปัญหาของการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐฯและยุโรป และความตึงเครียดของปัญหาระหว่างประเทศที่อาจความรุนแรงขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐฯ และสงครามยูเครนที่ยังไม่สงบ ในขณะที่ธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ คาดเศรษฐกิจโลกจะเติบโตเพียง 2.1% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี และอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกในปีนี้จะอยู่ที่ 7% จาก 8.7% ในปี 65 อีกทั้งการปรับลดการผลิตของกลุ่มโอเปคพลัส อาจทำให้ราคาพลังงานคงอยู่ในระดับสูง ถึงแม้ว่าราคาสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว

ขณะที่สภาพเศรษฐกิจของประเทศจีนกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการยกเลิกนโยบายปลอดโควิดและการทยอยเปิดประเทศตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา อีกทั้งภาคการผลิตและบริการส่งสัญญาณฟื้นตัวในเชิงบวก และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด อัตราเงินเฟ้อที่น้อยกว่า 1% และค่าเงินที่มีเสถียรภาพ จึงเป็นที่คาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวมากกว่า 5% ในปีนี้ แต่จีนคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวแค่ 5% อาจส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่เน้นการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สู่การกำหนดเป้าหมายทางสังคมที่ดีขึ้นผ่านการจ้างงานที่มากขึ้นและกระจายตัว

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News