ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 10 มีนาคม 2566 ที่ระดับ 34.96 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.07 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนหนึ่งมาจากการย่อตัวลงบ้างของเงินดอลลาร์และโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มค่าเงินบาท เราประเมินว่า การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมานั้น ส่วนหนึ่งมาจากการย่อตัวลงบ้างของเงินดอลลาร์และโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ
อนึ่ง เรามองว่า ในวันนี้ ค่าเงินบาท (รวมถึงเกือบทุกสินทรัพย์) มีความเสี่ยงที่จะผันผวนหนัก โดยเฉพาะในช่วงที่ ผู้เล่นในตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ (ราว 20.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย)
หากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและออกมาดีกว่าคาด เช่น ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) เพิ่มขึ้นราว 2.5 แสนตำแหน่ง หรือ 3.0 แสนตำแหน่ง พร้อมกับการเติบโตค่าจ้างที่เร่งตัวขึ้นกว่าคาด ก็จะยิ่งทำให้ตลาดเชื่อมั่นว่า เฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ย +0.50% ได้ในการประชุมเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ดี จาก CME FedWatch Tool จะเห็นได้ว่า ผู้เล่นในตลาดได้ให้โอกาสที่เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย กว่า 62% ทำให้หากข้อมูลตลาดแรงงานไม่ได้ดีกว่าคาดไปมากชัดเจน ก็อาจทำให้โอกาสการเร่งขึ้นดอกเบี้ยทรงตัวใกล้ระดับเดิม ซึ่งอีกเหตุผลหนึ่ง คือ ผู้เล่นในตลาดอาจรอจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า
ดังนั้น เราจึงประเมินว่า ในกรณีที่ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ดีกว่าคาด (แต่ไม่มาก เหมือนกับในเดือนมกราคม) เงินดอลลาร์อาจไม่ได้แข็งค่าไปมาก และเงินบาทอาจอ่อนค่าทดสอบ แนวต้านแถว 35.25 บาทต่อดอลลาร์
แต่หาก ข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ดีกว่าคาด แบบ “เซอร์ไพรส์” เหมือนในเดือนมกราคม (NFP +5 แสนตำแหน่ง) เงินบาทก็มีโอกาสอ่อนค่าทะลุระดับดังกล่าว และอาจอ่อนค่าต่อทดสอบ 35.50 บาทต่อดอลลาร์ได้ (เรามองโอกาสเกิดกรณีนี้ไม่มากนัก)
ในช่วงนี้ เรามองว่า ความผันผวนของตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง (ค่าเงินบาทผันผวนในระดับ 9%-10% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมาที่ระดับ 5% เป็นอย่างมาก) ทำให้เรามองว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.85-35.25 บาท/ดอลลาร์