ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.63 บาท/ดอลลาร์ ‘แข็งค่าขึ้น’ จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ 34.81 บาท/ดอลลาร์ ‘กรุงไทย’ ประเมินกรอบวันนี้ที่ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมา ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นอย่างชัดเจน หลังจากที่ในระหว่างวันเงินบาทไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านแถว 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ โดยปัจจัยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทนั้นมาจากการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์และโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำในจังหวะรีบาวด์
เราคงมุมมองเดิมว่า โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทนั้นแผ่วลงชัดเจน สะท้อนผ่านการที่เงินบาทยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซนแนวต้านไปได้ไกล นอกจากนี้ เรามองว่า ในจังหวะที่เงินบาทอ่อนค่าทดสอบโซนแนวต้าน แรงขายเงินดอลลาร์จากฝั่งผู้ส่งออก รวมถึงการขายทำกำไรสถานะ Short THB (มองว่าเงินบาทอ่อนค่า) ของผู้เล่นในตลาดบางส่วน ก็มีส่วนช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท
อย่างไรก็ดี เรามองว่า เงินบาทอาจจะยังไม่สามารถพลิกกลับมาเป็นเทรนด์แข็งค่าขึ้นอย่างชัดเจน จนกว่าตลาดจะรับรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟด หรือ Dot Plot ใหม่ในสัปดาห์หน้า ทำให้โดยรวมเงินบาทมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ Sideway 34.40-34.95 บาทต่อดอลลาร์ไปก่อน โดยมีโซนแนวรับสำคัญแถว 34.40-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งผู้นำเข้าบางส่วนอาจรอทยอยซื้อเงินดอลลาร์ในโซนดังกล่าว
ทั้งนี้ เราเริ่มเห็นสัญญาณว่า เงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ไม่ยาก หากประเด็นแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดจบลง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาซื้อสุทธิสินทรัพย์ไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของหุ้นไทย (ล่าสุด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย สองวันติดต่อกัน ราว 3.4 พันล้านบาท)
เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังเผชิญความไม่แน่นอนของการเมืองไทย รวมถึงทิศทางนโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลางหลัก ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.50-34.75 บาท/ดอลลาร์