สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (6 มี.ค.) หลังจากผู้บริหารของบริษัทพลังงานรายใหญ่ระบุว่า อุปทานน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในภาวะตึงตัว และคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในประเทศจีนจะฟื้นตัวขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 78 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 80.46 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 35 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 86.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายทอร์บจอห์น ทอร์นควิสต์ ซีอีโอของบริษัทกุนวอร์ คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบจะปรับขึ้นในไตรมาส 2 ปีนี้ เนื่องจากอุปสงค์จีนกลับเข้าสู่ตลาด
ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวซาอุดีอาระเบียปรับขึ้นราคาน้ำมันดิบประเภท “Arab Light” ที่ขายให้กับลูกค้าในเอเชียติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนเม.ย. ขณะที่การอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดน้ำมันเช่นกัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา สนับสนุนให้เฟดชะลอความแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% อย่างต่อเนื่องถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม และจะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา