HomeEditor's Pick"เศรษฐกิจไทย" ยังไม่ถดถอย แล้วประเทศไหนบ้างที่ส่งสัญญาณ "ถดถอย"

“เศรษฐกิจไทย” ยังไม่ถดถอย แล้วประเทศไหนบ้างที่ส่งสัญญาณ “ถดถอย”

ช่วงที่ผ่านมาอาจได้ยินคำว่า “ภาวะเศรษฐกิจถดถอย” หลังเกิดสัญญาณ “Inverted Yield Curve” ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ระยะยาวปรับลงมาต่ำกว่าระยะสั้น  บวกกับภาวะสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่พร้อมจะปะทุขึ้นทุกเมื่อ  ทำให้เกิดความวิตกกังวลกันทั่วโลกว่าเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่การชะลอตัว  และอาจนำไปสู่ภาวะถดถอยในที่สุด 

เช่นเดียวกับเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมา 2 ไตรมาส  ตัวเลขยังชะลอตัวอยู่  โดยเฉพาะตัวขับเคลื่อนด้านการส่งออกที่หดตัวจากภาวะสงครามการค้า  ในขณะที่สำนักวิจัยต่างๆ พากันปรับประมาณ GDP ปีนี้ลง  ในขณะที่รัฐบาลก็ต้องเข็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3.16 แสนล้านบาท  เพื่อดัน GDP ให้ถึงเป้าหมายที่ 3% จนมีคำถามว่า “เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ ?”

แต่หากไปย้อนฟังคำชี้แจงของ “นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี ที่ยืนยันต่อที่ประชุม ครม. ว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน โดยยืนยันว่าเศรษฐกิจไม่ได้ถดถอย เพราะการขยายตัวของเศรษฐกิจในแต่ละไตรมาสยังเติบโตเป็นบวก ไม่ได้ติดลบ เพียงแต่เป็นการเติบโตในอัตราที่ชะลอลงกว่าที่คาดไว้เท่านั้น

- Advertisement -

ขณะที่ “นายอุตตม สาวนายก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยืนยันว่า เศรษฐกิจไม่ได้อยู่ในภาวะถดถอย ยังสามารถเติบโตได้ แต่รัฐบาลไม่ประมาท จึงได้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 3.16 แสนล้านบาทในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอประเมินผลของมาตรการที่ออกไปก่อนหน้านี้

เมื่อ 2 เสียงยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยตอนนี้แค่อยู่ในภาวะชะลอตัว เพราะปัจจัยกดดันจากต่างประเทศโดยเฉพาะสงครามการค้า  ยังไม่ถึงขั้นถดถอย  และหากไปลองดูมุมมองนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์หลายคนก็ยังมองคล้ายๆ กัน  ว่าที่เป็นอยู่นี้เกิดจากการชะลอตัวกันทั้งโลก  ในเมื่อไทยเรายังไม่มีสัญญาณเสี่ยงถดถอย  ลองไปไล่ดูกันว่าแล้วประเทศไหนบ้างที่มีความเสี่ยงมากกว่าเรา

“สิงคโปร์” กับความเสี่ยงภาวะถดถอย

เริ่มที่ใกล้บ้านเราที่สุดอย่าง “สิงคโปร์” ที่ตอนนี้เรียกว่าอยู่ในอาการค่อนข้างหนัก  เพราะสิงคโปร์เป็นประเทศที่พึ่งพาเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก  เมื่อสงครามการค้ากระทบไปทั่วโลก  เศรษฐกิจสิงคโปร์ก็โดนไปด้วย  โดยเฉพาะการส่งออกที่พึ่งพาตลาดจีนถึง 12.5% เมื่อจีนชะลอตัว  สิงคโปร์ก็โดนหางเลขเช่นกัน 

หากไปดู GDP ไตรมาส 2 ปรากฎว่าขยายตัวแค่ 0.1% ชะลอตัวจากไตรมาสแรกซึ่งอยู่ที่ 1.1%  ถือเป็นการหดตัวครั้งใหญ่ในรอบเกือบ 7 ปี  ที่น่าเป็นห่วงคือภาคการผลิตที่หดตัว 0.4% เทียบกับไตรมาส 1 และหดตัว 3.8% เทียบปี 61

โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์  ที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจสิงคโปร์  ซึ่งปกติจะส่งออกไปยังจีน  และสินค้าต้นทางของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้าของจีนที่ส่งไปสหรัฐฯ เมื่อสหรัฐขึ้นภาษี  ผู้ประกอบการจีนก็ต้องชะลอคำสั่งซื้อ  จึงทำให้ตัวเลขส่งออกสิงคโปร์หดตัวมากสุดในรอบ 3 ปี

และล่าสุด ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้เปิดเผยผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์  พบว่าส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์ปีนี้จะโตแค่ 0.6%  ขณะที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลสิงคโปร์ก็ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงมาเหลือแค่ 0-1% เท่านั้น  จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5-2.5%

“เยอรมนี” เศรษฐกิจทรุด GDP หดตัว

อีกประเทศหนึ่งก็เป็นพี่ใหญ่ของฝั่งยุโรป  ที่เจอทั้งเรื่องสงครามการค้าและปัญหา Brexit  โดยตัวเลขจากสำนักงานสถิติเยอรมนีชี้ให้เห็นว่า GDP ไตรมาส 2 ของเยอรมนีหดตัวลง 0.1%  จากไตรมาส 1 ที่ 0.4%  ขณะที่ GDP ปี 61 ก็โตเพียงแค่ 1.5% เท่านั้น

โดยสาเหตุหลักคือการส่งออกที่ทรุดตัว  เยอรมนีนับเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ของยุโรป รวมถึงเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรปและใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก  โดยเฉพาะสินค้าประเภทรถยนต์  ที่ความต้องการทั่วโลกชะลอตัว  ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์เยอรมนีเงียบเหงาไปด้วย 

ขณะที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) ได้เปิดเผยรายงานดัชนีความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจ (Economic Sentiment Index) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีทรุดตัวลงสู่ระดับ -44.1 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี

ขณะที่ CNN รายงานว่าภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวนี้  เป็นเหมือนพายุลูกใหญ่ที่กระทบประเทศใหญ่ๆ หลายประเทศ  และเยอรมนีก็ไม่ใช่ประเทศเดียวที่จะกระทบ แต่ยังอาจลามไปถึงอังกฤษ  อิตาลี  เม็กซิโก รวมถึงบราซิลด้วย

Business Today
Business Todayhttps://businesstoday.co
Supporting Thailand's business communities./ FB Page: Business Today Thai/ Social: Business Today Thai (สำหรับ Twitter, YouTube, Telegram)/ LINE: @Business today/ เว็บที่เกี่ยวข้อง: Thailand Today: www.thailandtoday.co/ FB: Thailantoday.co (English)/ Thailand Today News: www.thailandtoday.news/ FB: Thailandtoday.news (Mandarin Chinese)

Latest

ติดตามข่าวสารอัพเดททันใจจาก Businesstoday ได้โดยกรอกอีเมลด้านล่าง

Related News