เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เบนเป้าเจาะกลุ่มคอนโดมิเนียมหรูภายใต้แบรนด์ PITI งัดกลยุทธ์บริการแบบโรงแรมระดับ 5 ดาว เตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการต้นเดือน ต.ค.นี้ ที่สุขุมวิท 101 หวังยอดโอนกรรมสิทธิ์ครึ่งปีหลังช่วงดันรายได้ถึง 6 พันล้านบาทตามเป้าที่วางไว้
บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA นำโดยนางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริการ และนางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้อำนวยการฝ่ายจัดสรรเงินทุนและการลงทุน เข้าชี้แจงผลดำเนินงานไตรมาส 2/62 ในงาน Opportunity Day บริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
นางสาวเกษรา กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับผลกระทบเชิงลบเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว รวมปถึงมาตรการ Loan-to-Value (LTV) ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่ยังมีตัวแปลที่ดีคือดอกเบี้ย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯพยายามปรับตัวให้ทันกับเหตุการณ์โดยตลอด
เห็นได้จากการปรับลดเป้าหมายการเปิดโครงการในปีนี้ลง จากเดิมบริษัทฯตั้งเป้าเปิดตัวโครงการใหม่ในปีนี้ด้วยมูลค่ารวม 1.8 หมื่นล้านบาท แต่ได้ปรับลดเหลือมูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาวะครึ่งปีหลังผู้ประกอบการเริ่มหันมาทำตลาดบ้านแนวราบมากกว่าคอนโดมิเนียม ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องแย่งกันซื้อที่ดินมากขึ้นเพราะเป็นโครงการที่ต้องใช้เนื้อที่มากกว่าคอนโดมิเนียม
ทั้งนี้ บริษัทฯก็ประสบปัญหาในการหาซื้อที่ดินแห่งใหม่ในการทำโรงการไม่ทัน เนื่องจากบริษัทฯ ต้องระมัดระวังการซื้อที่ดินมากขึ้นกว่าเดิม เพราะโครงการบ้านเป็นโครงการระยะยาว จึงต้องเลือกซื้อที่ดินเป็นอย่างดีและป้องกันการถูกโก่งราคากว่าตลาด จึงทำให้บริษัทฯ ต้องเลื่อนการเปิดโครงการแนวราบใหม่ไปเป็นช่วงปี 63 ส่งผลให้โครงการที่จะเปิดใหม่ในปีนี้ลดลงตามไปด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ภาวะตลาดในช่วงปัจจุบันที่การซื้อชะลอตัวลง ทำให้การตั้งยอดพรีเซลล์ที่สูงเหมือนเดิมอาจไม่ใช่เรื่องดีนัก เนื่องจากจะเต็มไปด้วยนักเกร็งกำไรที่เข้ามาจอง ซึ่งไม่ใช่ผู้ซื้อตัวจริง บริษัทฯ จึงพยายามปรับยอดพรีเซลล์ลงจากเดิม 1.8 หมื่นล้านบาท เหลือ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งทั้งหมดนี้คือผลกระทบที่เกิดขึ้นในครึ่งปีแรกของปี 62
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังมีแบรนด์คอนโดมิเนียมใหม่ชื่อ PITI ซึ่งเป็นโครงการมที่ร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ในการทำโครงการคอนโดมิเนียมแบบพรีเมี่ยม ซึ่งต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายลักซูรี่ระดับหรู นับเป็นตลาดใหม่ที่บริษัทฯ พยายามเข้าไปอีกด้วย
บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์สร้างความแตกต่างให้กับโครงการ PITI กับโครงการคอนมิเนียมหรูอื่น ๆ โดยการให้บริการแบบโรงแรมระดับ 5 ดาว ซึ่งได้เริ่มมีการเปิดขายไปแล้วที่เอกมัย และช่วงต้นเดือน ต.ค.62 โครงการที่สุขุมวิท 101 จะเปิดขายอย่างเป็นทางการ โดยบริษัทฯยังมองธุรกิจอสังหาฯในแง่ดี แม้จะมีปัจจัยลบในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกอบการต้องมีการปรับเป้าหมายอย่างเหมาะสม เสริมกลยุทธ์ด้วยการเพิ่มคุณค่าให้กับตัวสินค้า และเลือกพื้นที่ที่ยังมีความต้องการอยู่ จึงจะเป็นอีกช่องทางในการแสวงหาโอกาสใหม่
ด้าน นาวสาวอธิกา กล่าวทิ้งท้ายว่า ณ สิ้นไตรมาส 2/62 บริษัทฯ มีโครงการทั้งหมด 35 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 4.4 หมื่นล้านบาท โอนกรรมสิทธิ์แล้ว 1.2 หมื่นล้านบาท และเป็น Backlog 1.2 หมื่นล้านบาท โดยจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้จำนวน 4.5 พันล้านบาท ปี 63 สามารถรับรู้รายได้จำนวน 3.8 พันล้านบาท และปี 21 สามารถรับรู้รายได้ 4 พันล้านบาท
สำหรับปี 62 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมทั้งหมดจำนวน 6 พันล้านบาท ซึ่งครึ่งปีที่ผ่านมาสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจอสังหาฯไปแล้วทั้งสิ้น 1.5 พันล้านบาท โดยจะมีโครงการคอนโดมิเนียมที่แบริ่ง และปากเกร็ด เป็นตัวความหวังในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าวจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ในช่วงไตรมาส 4/62
ทั้งนี้ ช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 119 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 225 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,068 ล้านบาท ลดลงจาก 1,714 ล้านบาท เมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อน
หุ้น SENA ก่อนปิดซื้อขายวันที่ 3 ก.ย.62 อยู่ที่ 3.28 บาท/หุ้น คงที่จากเมื่อวันที่ 2 ก.ย.62